หนองคาย - “อัจฉริยะ” สวนทันควัน หลังถูกตำรวจแจ้งความดำเนินคดี ขึ้นโรงพักที่หนองคายแจ้งความกลับตำรวจมาตรา 172, 173 ชี้เป็นกระบวนการสกัดไม่ให้แถลงข่าวขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดีแตงโม ฝาก ผบ.ตร.จะเอาความยุติธรรมหรือเอาพวกพ้องคิดให้ดี พร้อมไม่ลืมท้าแซน ไปสาบานวัดหงส์ที่บุรีรัมย์ อยากแจ้งความตนให้รีบหน่อย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (5 พ.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.นัทธกานต์ วรรณพันธ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองหนองคาย พร้อม พ.ต.อ.พิรัชน์ อุดมพิสุทธิคุณ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย โดยนายอัจฉริยะได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.พชต วงศ์ประณุฑ รอง ผกก.(สอบสวน) คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน สน.ประชาชื่น ตามมาตรา 172, 173 ป.อาญา ตอบโต้ทันควันหลังจากที่เมื่อวานนี้ (4 พ.ค. 65) พ.ต.ท.พชต งศ์ประณุฑ ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายอัจฉริยะ กรณีเมื่อวันที่ 20 เม.ย.65 จัดแถลงข่าว แตงโม น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดังตกเรือเสียชีวิต ที่โรงแรมอัณณา นาวา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
หลังรับแจ้งความแล้ว ทางตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย จะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้ สน.ประชาชื่น ท้องที่เกิดเหตุดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
นายอัจฉริยะกล่าวว่า ตนต้องสวนทันควันกับตำรวจที่มาแจ้งความ ตนขอถามว่าสิ่งที่ตำรวจมาแจ้งความนั้นรู้อยู่แล้วว่าตนไม่ได้กระทำความผิด แต่ต้องการปิดปากตนเพื่อไม่ให้ตนดำเนินคดีแตงโมต่อ ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ใช่วิธีการของลูกผู้ชาย จริงๆ แล้วต้องแฟร์ๆ กัน ดังนั้นเมื่อตำรวจแจ้งความมาตนก็ต้องแจ้งความกลับ โทษหนักกว่าตนอีก ความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณามีโทษ 2 ปี แต่ตนแจ้งมาตรา 172 มีโทษ 2-7 ปี และมาตรา 173 ซึ่งตนมีหลักฐานยืนยันอยู่แล้วว่าสิ่งที่ตำรวจทำไปเป็นเท็จ มันมีอะไรชัดเจนอยู่แล้ว ตนมั่นใจว่าตนไม่ผิดเลย ไม่ต้องมาใช้อำนาจรัฐในการคุกคามข่มขู่ตน
เพราะคดีนี้ต้องไปพิสูจน์ว่าศาลจะพิจารณาคดีแตงโมอย่างไรต่อถึงจะแจ้งข้อหาตนได้ ตนขอเตือนพนักงานสอบสวนว่ากำลังตกเป็นเครื่องมือของตำรวจนนทบุรี ขอให้ทบทวนให้ดีเพราะตนมีนักกฎหมายอยู่ในชมรมจำนวนมาก ไม่อยากให้พนักงานสอบสวนต้องถูกทำโทษมาตรา 157 ฝากถึง ผบช.น.1 ว่าการให้คนมาเจรจาแล้วยังไงกันแน่ ให้คนมาเจรจาแต่ให้ลูกน้องอีกชุดหนึ่งไปแจ้งความแบบนี้หมายความว่ายังไง ตนไม่รับข้อเสนอเรื่องเงินอยู่แล้ว เพราะตนคิดเสมอว่าแตงโมเหมือนลูกสาวของตน ถ้าลูกสาวตนถูกกระทำแบบแตงโมซึ่งเป็นการฆาตกรรมอำพรางแล้วตนจะรับได้หรือ
คดีนี้ค่อนข้างชัดเจนว่ามีขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จและขัดขวางไม่ให้ตนแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับการสร้างพยานหลักฐานเท็จของคดีแตงโมในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ส่วนกุนซือของตำรวจก็เป็นทนายโง่ไม่รู้กฎหมาย ต่อให้คุณแจ้งความกี่ครั้งตนก็จะสวนกลับทุกครั้ง ฝากถึง ผบ.ตร.ด้วยว่าขณะนี้จะเอาความยุติธรรมเพื่อความถูกต้องช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกฆาตกรรมอำพรางหรือจะเอาพวกพ้อง ถ้าจะเอาพวกพ้องที่เป็นเด็กของท่านไม่ว่าจะเป็น ผกก.นนทบุรี, ผบช.น.1, ผบก.สส.ภ.1 ท่านจะต้องพิจารณาว่าจะทนกระแสสังคมไหวมั้ยกับการเรียกร้องความยุติธรรมของตนต่อคดีแตงโม ซึ่งไม่มีใครหยุดตนได้ และไม่มีใครขอตนได้ ยังไงก็ต้องเดินหน้าเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
นายอัจฉริยะยังได้ฝากถึง แซน ด้วยว่า ตนท้าแซนให้ไปสาบานที่วัดหงส์ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ไม่ใช่ไปสาบานหน้าบ้านหรือวัดไหนก็ได้ ระบุไปเลยว่าอยากให้ไปสาบานที่วัดหงส์ ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด ไม่ได้ให้การเท็จ อย่าอ้างว่าไม่สะดวก หรือไกล คนเราถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดขอให้ไปวัดหงส์กับตน ตนกล้าสาบานต่อหน้าวัดหงส์ว่าตนทำคดีแตงโมด้วยเป็นเหยื่ออาชญากรรมและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีใบสั่งหรือไม่มีนัยแอบแฝง แซนต่างหากที่แม้ชวนไปสาบานวัดหงส์ยังไม่กล้าไปเลย
กรณีที่บอกว่าจะฟ้องตนนั้นให้รีบหน่อย อย่าช้า ทนายความที่เป็นกุนซืออยู่ข้างๆ ทำอะไรตนไม่ได้เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องทำคดีหลักที่แซนถูกดำเนินคดีอยู่ให้เสร็จสิ้น และตนก็เป็นคนกล่าวหาในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ดังนั้นอย่าปากดี ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิดไปวัดหงส์กับตนดีกว่า ถ้าไม่มีเงินตนออกเงินค่าเดินทางให้ก็ได้ 20,000 บาท
ส่วนแม่ของแตงโมนั้น นายอัจฉริยะบอกว่า ไม่เกี่ยว เพราะแม่ไม่รู้เรื่อง ตนเข้าใจคุณแม่เพราะแม่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย แต่อยากฝากถึงคนที่เป็นกุนซือต่างๆ ให้ช่วยแนะนำในทางที่ถูกต้อง เป็นถึงนักกฎหมายแล้วก็ต้องแนะนำลูกความดีๆ อย่าให้ทุเรศไปกว่านี้ ขนาดเป็นนักกฎหมายมา 30 ปี เอาเรื่องไปโพสต์ไปแชร์ ยังไม่รู้หรือว่าการที่จะดำเนินคดีตนได้ต้องรอผลของคดีหลักก่อน มิน่าถึงทำคดี 6 คดีแพ้รวด