“แซน วิศาพัช” พร้อมทนายเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ให้ปากคำกรณีถูก “จิน จรินทร์” สามี หนิง ปณิตาหมิ่นประมาท เผย ยินดีไกล่เกลี่ยคดีหากยอมขอโทษ พร้อมรับคำท้า “อัจฉริยะ” ยอมจุดธูปสาบานคดีแตงโม
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ สน.ท่าข้าม นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน หนึ่งในผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาวชื่อดัง พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ในกรณีแจ้งความเอาผิด นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือ จิน สามีของ หนิง ปณิตา ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมกับพาพยานบุคคลมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่า อินสตาแกรมที่เคยมีการโพสต์ข้อความลักษณะหมิ่นประมาทตนเองนั้น เป็นของนายจรินทร์จริง
นายวิศาพัช กล่าวว่า ในวันนี้ได้พาพยานบุคคลอีก 1 ปาก มาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่า บัญชีอินสตราแกรมที่นายจรินทร์ ใช้อยู่นั้นเป็นบัญชีจริง รวมถึงให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่บุคคลภายใน อ่านข้อความลักษณะดังกล่าวนั้นแล้วรู้สึกอย่างไร เป็นข้อความที่มีเจตนาสื่อถึงความหมายใด เพื่อต้องการให้พนักงานสอบสวนนำความเห็นดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณา หรือนำไปประกอบสำนวน
ทั้งนี้ หากมีการติดต่อขอโทษก็พร้อมพิจารณา เมื่อทำผิดแล้วกล้ายอมรับผิด ก็พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยพูดคุยกันได้ เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากไม่มีการติดต่อมาก็คงต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีตนเอง
นายวิศาพัช กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ท้าให้ตนออกมาสาบานเรื่องคดีแตงโมนั้น ยืนยันว่า พร้อมทำตามข้อเรียกร้อง ในเมื่อนายอัจฉริยะหมดที่พึ่งทางวิทยาศาสตร์ และมุ่งสู่ไสยศาสตร์แทน ตนก็ไม่ติดขัด เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย แต่ขอเป็นวัดในพื้นที่กรุงเทพฯ หากให้เดินทางไปที่ จ.บุรีรัมย์ คงไม่สะดวก ขอจุดธูปสาบานที่หน้าบ้านแทน แต่มีข้อแม้ว่า นายอัจฉริยะเอง ก็ต้องออกมาพูดสาบานยืนยันตนเองด้วยว่า การที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น เป็นเพราะต้องการช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง ยืนยันว่า การที่ตนไม่ไปสาบานที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่ใช่ว่าไม่กล้า แต่ระยะทางไกลเกินไป จึงไม่สะดวก และในฐานะที่เป็นคนพุทธเหมือนกัน มองว่าวัดที่ไหนก็เหมือนกัน
ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ ออกมาเคลื่อนไหว หรือให้สัมภาษณ์กับสื่อ มองว่า ข้อมูลที่ออกมาพูดไม่มีมูลความจริง และเป็นการจินตนาการไกลเกินขอบเขต สร้างผลกระทบให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการยื่นฟ้องกลับหรือไม่ โดยจะแบ่งเป็นต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณาให้รอบคอบก่อน