ตาก - กองทัพภาคที่ 3 แจง..องค์กรเอกชนแพร่คลิปทหารรื้อสะพานข้ามน้ำเมย-ขู่คนบันทึกภาพ “..อยากตายเหรอ” ผสมภาพเครื่องบินรบพม่าถล่มรัฐกะเหรี่ยง ยัน จนท.รื้อสะพานเถื่อนตั้งแต่ปลายปี 64 สกัดยาเสพติด แรงงานเถื่อน ป้องกันโควิด คนละช่วงเวลา-ก่อนการสู้รบในพม่า
กรณีองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน “ฟอร์ตี้ฟายไรต์” เผยแพร่คลิปบันทึกเหตุการณ์ ขณะกลุ่มคนที่ระบุว่าเป็นทหารไทยกำลังรื้อถอนสะพานไม้ไผ่ของกลุ่มผู้ลี้ภัยใช้ข้ามชายแดนหนีภัยการสู้รบในประเทศเมียนมาออกไปเมื่อเดือน มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวไม่เพียงมีภาพการรื้อถอน แต่ยังมีภาพและเสียงที่ทหารข่มขู่ผู้ถ่ายคลิปอีกด้วย "เฮ้ย! ถ่ายไรอะ ไอ้เ..ยนี่ มึงอยากตายเหรอ" ฟอร์ตี้ฟายไรต์ยังระบุด้วยว่า คลิปนี้ถ่ายได้ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา ตรงข้าม จ.ตาก
นอกจากนี้ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนองค์กรนี้ยังเผยแพร่คลิปผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 45 คน ใช้สะพานแห่งนี้ข้ามชายแดนมาเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 65 ซึ่งเป็นอีกช่วงหนึ่งทหารเมียนมาและกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์เปิดปฏิบัติการสู้รบกันอย่างดุเดือด
ฟอร์ตี้ฟายไรต์ยังเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทยให้สอบสวนการกระทำนี้ด้วย เพราะไทยควรช่วยปกป้องผู้ลี้ภัยในยามเดือดร้อนไม่ใช่ซ้ำเติม
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค. 65) คณะทำงานโฆษก กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แจ้งว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวสารข้อมูลทหารไทยได้ดำเนินการรื้อถอนสะพานไม้ไผ่ ที่กลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ใช้เดินทางอพยพเข้ามายังฝั่งไทยในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก จนเป็นข่าว และข้อมูลเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ (Social Media) นั้น
กองทัพภาคที่ 3 ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าข่าวสารและข้อมูลที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ (Social Media) ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะจัดกำลังพลร่วมกับส่วนราชการพลเรือนที่เกี่ยวข้อง และผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชนในพื้นที่ เข้าดำเนินการรื้อถอนสะพานไม้ไผ่ (แบบชั่วคราว) ในพื้นที่บ้านวาเล่ย์ใต้ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 1 แห่ง ตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งสะพานไม้ดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลไม่ทราบฝ่าย นำมาใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย
ซึ่งขณะดำเนินการรื้อสะพานดังกล่าวยังไม่เกิดสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย และยังไม่มีกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อพยพเข้ามายังฝั่งไทย จึงขอยืนยันเหตุรื้อสะพานไม้ไม่เกี่ยวข้องกับการข้ามเข้ามายังฝั่งไทยของกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด และเป็นคนละห้วงเวลากัน
กองทัพภาคที่ 3 ยืนยันอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการจัดระเบียบพื้นที่ตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามกลุ่มขบวนการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งเพื่อเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดตาก/ศูนย์สั่งการชายแดนไทย จังหวัดตาก ในการระงับการเข้า-ออกของบุคคล และยานพาหนะ รวมทั้งสินค้าผ่านแดน เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการข้ามเข้ามายังฝั่งไทยของกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) แต่อย่างใด
และ ณ ปัจจุบัน (4 พ.ค. 65) ในพื้นที่จังหวัดตากมีพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวสำหรับกลุ่มหนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อยู่เฉพาะพื้นที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ บ้านเซอทะ, บ้านหนองหลวง, บ้านเลตองคุ และบ้านไม้ระยองคี มีผู้หนีภัยฯ จำนวน 1,547 คน
โดยกองกำลังนเรศวร ร่วมกับศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก ได้ดำเนินการดูแลตามหลักมนุษยธรรม ทั้งด้านความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพ โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้หนีภัยฯ จัดแพทย์ พยาบาล จากกระทรวงสาธารณสุข เข้าดูแลและให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ รวมทั้งดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่พักพิงของผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้ปฏิบัติตามนโยบายของกองทัพบก และรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ขอยืนยันว่าจะดำรงตนเพื่อรักษาอธิปไตย, ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยตลอดไป โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ทุกฝ่าย และอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับด้วยความสมัครใจมาโดยต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2564 จนกระทั่งปัจจุบัน