ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สองตายายชาวอำเภอสีชมพู ขอนแก่น ถูกแก๊งมิจฉาชีพใช้อุบายหลอกยืมเงินไปลงทุนซื้อที่แล้วจะได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินที่ลงทุน สุดท้ายถูกเชิดทั้งเงินสดและทองคำมูลค่ากว่า 100,000 บาท
ที่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ได้เกิดเหตุสองตายาย คือ นายคำพันธ์ อันทฤทธิ์ อายุ 74 ปี และนางสมพร อันทฤทธิ์ อายุ 66 ปี ถูกแก๊งมิจฉาชีพใช้อุบายหลอกร่วมลงทุนซื้อที่ดินทำให้ต้องสูญเงินสดและทองรูปพรรณมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท เพื่อนบ้านทราบเรื่องต่างสงสารและเห็นใจคุณตาคุณยายสองผัวเมียเป็นอย่างมากและย้ำเตือนญาติพี่น้องและคนรู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพังให้ระมัดระวังอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า
คุณตาคำพันธ์เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมาขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ในสวน บ้านวังทอง ต.วังเพิ่ม ได้มีชายหญิง 2 คน ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 5135 กรุงเทพมหานคร แวะเข้ามาถามหาซื้อที่ดินบริเวณนี้ว่ามีใครต้องการขายหรือไม่ ตนจึงบอกว่ามีคนต้องการขายอยู่รายหนึ่ง จากนั้นชายทั้งสองก็นัดเจอกับตนในวันถัดมา (29 เม.ย. 65) ซึ่งตนได้ชักชวนนางสมพร ภรรยา ออกไปพบกับสองผัวเมียคู่นั้นด้วย จุดนัดคือที่สวนของตนนั่นเอง
ทั้งคู่ก็มาตามนัดพร้อมกับบอกว่าจะให้เงินคนละ 1,000 บาท เพื่อเป็นค่าเสียเวลาในการช่วยพาไปดูที่ดินในวันนี้ จากนั้นมีโทรศัพท์โทร.เข้ามา โดยหนึ่งในนั้นได้พูดคุยว่ามีคนต้องการขายที่ดิน 20 ไร่ อยู่บ้านลอมไผ่ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร พร้อมกับชักชวนให้ตนกับภรรยาไปนัดพบกับเจ้าของที่ผืนดังกล่าวด้วย เมื่อไปถึงเจอกับชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บริเวณด้านหน้าที่ดินแปลงที่จะขาย
ชายในรถได้สอบถามว่าบ้านยายดำไปทางไหน ชายคนดังกล่าวบอกว่าที่ดินแปลงนี้ตนเป็นผู้ดูแล เพราะยายดำเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเจรจากันพักหนึ่ง ก่อนจะตกลงซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวในราคา 700,000 แสนบาท
จากนั้นได้มีการโทรศัพท์เพื่อนัดรับเงินจากนายทุนก้อนแรกจำนวน 400,000 บาท เพื่อมาวางมัดจำและมีการนำเงินไปให้กันจริงๆ
นายคำพันธ์เล่าต่อว่า จากนั้นผู้ชายที่ตนนั่งรถไปด้วยได้มานั่งท่องนะโม 3 จบ พร้อมกับเอ่ยปากสาบานว่าจะไม่บอกเรื่องในวันนี้ให้กับคนในครอบครัวได้รู้ ซึ่งตนก็ไม่เอะใจอะไร จากนั้นได้มาดูที่อีกแปลงที่ได้มีการนัดตกลงราคากันแล้วในราคา 7 แสนบาท แต่ทั้งสองคนได้ออกอุบายว่าตอนนี้โฉนดที่ดินติดจำนองกับนายทุนในอำเภอศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู และเงินหมดเลยขอให้ตนเองและยายได้นำเงินมาให้ยืมก่อน
โดยฝ่ายหญิงบอกว่าจะนำเงินจำนวน 1.2 ล้านบาทมาไถ่ถอนโฉนดที่ดิน อยากให้ตนเองกับยายนำเงินมาร่วมสมทบกันและจะแบ่งเงินให้
จากนั้นตนจึงให้พวกเขานั่งรถพากลับบ้าน เพื่อนำสมุดบัญชีไปเบิกเงิน โดยได้ไปเบิกเงินที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ในส่วนของตน 10,000 บาท ส่วนยายเบิกเงินจำนวน 20,000 บาท และทองรูปพรรณน้ำหนัก 2 บาท โดยชายหญิงทั้งสองคนได้นั่งรอในรถ จากนั้นก็ไปจอดรถหน้าร้านถ่ายเอกสาร พร้อมบอกให้ตนและยายลงไปถ่ายสำเนาบัตรประชาชน ส่วนพวกเขาจะขอไปกดเงินที่ตู้ ATM และไปคุยกับเจ้าของที่ดิน แล้วจะกลับมารับ
แต่สุดท้ายก็ไม่มารับ โทรศัพท์ติดต่อไปหาหลายครั้งก็โทร.ไม่ติด ทำให้รู้ว่าถูกหลอกแล้ว จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่บ้าน เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรสีชมพู เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย