ชมคลิปสองผัวเมียขนกล้วยแหกด่าน โวยวายใส่ตำรวจ อ้างด่านตั้งอยู่ใกล้ไฟแดง ไม่ให้ใบขับขี่อ้างเสียเวลา แถมยังกล่าวหาตำรวจชักปืนข่มขู่ประชาชน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ด้านฝั่งเมียอ้าง "มันหยุดไม่ได้พี่ รถมันหนัก ตอนเขาโบกรถมันมาเร็ว" ปรากฏว่าพบพิรุธ พอค้นรถอย่างละเอียดพบยาบ้ากว่า 26,000 เม็ด สารภาพรับกล้วยจากฝาง เชียงใหม่ ไปส่งให้เจ้าของแต่ติดต่อไม่ได้
วันนี้ (29 เม.ย.) เฟซบุ๊ก "พระจันทร์ ลายกระต่าย" โพสต์วิดีโอคลิปหัวข้อ "เคสตำรวจ สภ.สากเหล็ก ตั้งด่านตรวจยาเสพติด" ขณะที่คนขับรถกระบะอีซูซุ สีเขียว บรรทุกกล้วยมาเต็มคันรถ โวยวายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อว่าเรื่องการตั้งด่าน เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 11 (อินทร์บุรี-วังทอง) บริเวณที่กลับรถเยื้องวัดท่าพิกุล ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ชายคนดังกล่าวถามว่าจะจับข้อหาอะไร ตำรวจสอบถามว่าคุณเห็นด่านไหม ชายคนดังกล่าวระบุว่า เห็นแต่ตั้งด่านใกล้ไฟแดง เมื่อพยายามขอดูใบขับขี่กลับไม่ให้ อ้างว่าเสียเวลา ท้าให้ถ่ายคลิปเอาไว้ ถามกลับว่าจับข้อหาอะไร ตำรวจกล่าวว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ระหว่างนั้นภรรยาที่นั่งมาด้วยลงจากรถก็โต้เถียงว่าตำรวจมาโบกใกล้ๆ ไม่เห็น พยายามขึ้นเสียงกับตำรวจ ชี้หน้าด่าว่าอย่าใช้อารมณ์ โดยที่ภรรยาพยายามถ่ายคลิป ตำรวจอีกนายกล่าวว่า เชิญถ่ายเลยครับ เรามีป้ายก่อนถึงจุดตรวจ 500 เมตร
ต่อมาชายคนดังกล่าวลงจากรถในลักษณะไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้น ต่อว่าตำรวจว่า ตนทำมาหากิน แต่พวกพี่มาจับเพราะอะไร มาตั้งด่านอะไรตรงไฟแดง ตำรวจกล่าวว่ามีป้ายก่อนถึงจุดตรวจ 500 เมตร ชายคนดังกล่าวระบุว่า รู้ว่ามีแต่ไม่ควรตั้งแบบนี้ มันก็ต้องมีกรวย มีอะไรตั้งดีๆ ตำรวจกล่าวว่า ตั้งด่านมา 6 ปีแล้ว ชายคนดังกล่าวระบุว่า 10 ปียังไม่เคยเจอเลย ก่อนให้ภรรยาที่นั่งมาด้วยโทร.หาเจ้าของกล้วยให้มาเคลียร์ เพราะเสียเวลาอยู่ที่นี่ ขณะที่ภรรยาที่นั่งมาด้วยกล่าวว่า เมื่อกี้ตำรวจล้วงปืนออกมาทำไม โต้เถียงกันว่าใครโต้เถียงกับใครก่อน แล้วบอกว่าตำรวจใช้ปืนข่มขู่ประชาชน ตำรวจถามกลับว่าผมเอาปืนจี้คุณไหม ชายคนดังกล่าวถามกลับว่าผมทำอะไรผิด ตำรวจกล่าวว่าคุณแจ้งความผมเลยไม่เป็นไร เจอกันที่โรงพัก เดี๋ยวเอารถขึ้นตราชั่งด้วย ชายคนดังกล่าวอ้างว่าไม่เกินอยู่แล้ว กล้วยมีแค่ 2 ตัน ให้จ่ายค่าเสียเวลาด้วย ตำรวจกล่าวว่าก็คุณไม่จอดเอง ขณะที่ภรรยาที่นั่งมาด้วยอ้างว่ามันหยุดไม่ได้พี่ รถมันหนัก ตอนเขาโบกรถมันมาเร็ว
ชมคลิป คลิกที่นี่
อย่างไรก็ตาม ได้มีคอมเมนต์ที่คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โพสต์ภาพขณะที่จับกุมสองสามีภรรยาที่อยู่ในคลิป พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก บรรจุในถุงซิปล็อกสีน้ำเงินและสีดำ ใส่ในถุงปุ๋ยซุกซ่อนที่กระบะโดยมีกล้วยทับอยู่ และภายหลังเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เผยแพร่ภาพขณะตำรวจตรวจค้นรถกระบะ ระบุว่า "เคสนี้ตอบโจทย์ด่านมีไว้ทำไม ตำรวจ สภ.สากเหล็ก ตั้งด่านตรวจยาเสพติด พวกที่ชอบโวยวายเวลาเจอด่านตรวจ ต้องตรวจค้นละเอียดครับ เคสนี้เจอยาบ้าเพียบ โมโหกลบเกลื่อนเพื่ออะไรครับ"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ผู้สื่อข่าว MGR Online สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ดรุฒ เย็นวัฒนา ผกก.สภ.สากเหล็ก จ.พิจิตร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่อยู่ในคลิปเกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) เวลาประมาณ 08.30 น. ผู้ต้องหาเป็นสองสามีภรรยา แหกด่านตรวจยาเสพติดของ สภ.เนินกุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ สภ.สากเหล็ก ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นจึงได้ตรวจรถยนต์คันดังกล่าวรอบคัน ระหว่างนั้นผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตามที่ปรากฏในคลิป ก่อนจะพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวไม่จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จึงได้ออกใบสั่งและยึดใบขับขี่เอาไว้
ต่อมาได้รับแจ้งจาก สภ.เนินกุ่ม จ.พิษณุโลก ว่ารถกระบะคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดให้ตรวจค้นที่ด่านตรวจยาเสพติด ถนนอินทร์บุรี-วังทอง ทางสายตรวจเห็นว่ามีพิรุธ จึงได้ตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าวอีกครั้ง โดยทำการตรวจค้นที่หน้า สภ.สากเหล็ก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ตรวจค้นครั้งแรกนัก ปรากฏว่าพบยาบ้าจำนวน 26,975 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระบะคอก โดยมีกล้วยทับอยู่ ผู้ต้องหาสารภาพว่าไปรับกล้วยมาจาก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ก่อนขับรถมาเรื่อยๆ ตามเส้นทาง แล้วนัดเอากล้วยมาส่งในพื้นที่ของ สภ.สากเหล็ก ปรากฏว่าติดต่อลูกค้าไม่ได้ แต่ปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของยาเสพติด
เบื้องต้นตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ดำเนินคดี และได้ยื่นฝากขังต่อศาลจังหวัดพิจิตรในวันนี้ ซึ่งจะได้ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป ส่วนคลิปที่ปรากฏในเพจเฟซบุ๊กนั้น ผกก.สภ.สากเหล็กระบุว่า ได้เห็นคลิปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ดูในเพจดังกล่าว เข้าใจว่าเจตนาของผู้โพสต์เน้นไปที่พฤติกรรมของผู้ต้องหาในเรื่องการแหกด่านมากกว่า
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับผู้ต้องหา คือ นายอาลอง ชีมือ อายุ 34 ปี และ น.ส.ชาลินี นพเกตุ อายุ 27 ปี ทั้งสองเป็นชาว ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย