ศรีสะเกษ - ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว จ.ศรีสะเกษ บุกรวบ 2 พระยึดวัดนิคมซอย 3 อ.วังหิน ร่วมกับวัยรุ่นมั่วสุมเสพและขายยาบ้า ของกลางยาบ้า 314 เม็ด อาวุธปืนและกระสุนปืน ผู้ต้องหา 3 ราย
วันนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดนิคมซอย 3 หมู่ที่ 9 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายนิธิโรจน์ แก้วเหลา เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ 238 พิทักษ์นครลำดวน จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังหิน เข้าทำการตรวจค้นกุฏิพักสงฆ์ภายในวัดดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนออกไปประมาณ 1 กม. โดยภายในกุฏิพบ พระกฤติมา บุญอุปละ อายุ 36 ปี พระอติชาต พงษ์สีมา อายุ 48 ปี และ นายสถาพร กาเหลา อายุ 29 ปี ซึ่งกุฏิหลังดังกล่าวพระกฤติมาเป็นผู้พักอาศัย
จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบยาบ้าที่เหลือจากการเสพจำนวน 1 ชิ้น อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 24 นัด โดยพระกฤติมาให้การรับสารภาพว่าของกลางดังกล่าวทั้งหมดเป็นของตน และรับว่าเสพยาบ้าจริง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจค้นกุฏิพักของ พระอติชาต พงษ์สีมา อายุ 48 ปี พบเพียงอุปกรณ์การเสพยาบ้าและรับว่าเสพยาบ้า
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจค้นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน 7 กต 8551 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้ากุฏิภายในวัดที่เกิดเหตุ โดยนายสถาพรรับว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวตนเป็นผู้ครอบครองและเป็นผู้ขับขี่เข้ามาจอดที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นปรากฏว่า พบยาบ้าใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบกดปิดเลื่อนเปิดจำนวน 2 ถุง ยาบ้ารวม 314 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้แผงควบคุมกระจกบริเวณประตูรถยนต์ฝั่งคนขับ ซึ่งนายสถาพรรับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนและรับว่าเสพยาบ้าจริง
นายนิธิโรจน์ แก้วเหลา เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายสืบเนื่องจากได้มีประชาชนในพื้นที่บ้านนิคมซอย 3 และ นิคมซอย 4 หมู่ที่ 9 ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ร้องเรียนไปยัง นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ผ่านทางศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษว่า ได้มีพระสงฆ์ 2 รูป ซึ่งเป็นพระมาจากต่างถิ่น คือ พระกฤติมา เป็นชาวจังหวัดลำพูน และ พระอติชาต เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดดังกล่าวเมื่อช่วงโควิดระบาดช่วงแรก 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นที่วัดไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ชาวบ้านจึงให้อยู่ที่วัดดังกล่าว
ต่อมาระยะหลังปรากฏว่าพระทั้ง 2 รูปมีพฤติการณ์เปลี่ยนไปคือไม่ออกบิณฑบาต และมักจะมีวัยรุ่นในพื้นที่ รวมทั้ง นายสถาพร ขับรถเข้าออกภายในวัดและมักจะได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากภายในวัดเป็นประจำ ชาวบ้านจึงแอบดูพฤติการณ์จนกระทั่งทราบว่าพระทั้ง 2 รูปใช้พื้นที่ภายในวัดร่วมกับวัยรุ่นในพื้นที่เป็นแหล่งมั่วสุมเสพและขายยาบ้าเป็นประจำทุกวัน จนทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัว และไม่กล้าที่จะมาปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาทั้งที่เป็นวัดประจำหมู่บ้าน
จึงได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่ได้รับ จึงได้สั่งการให้ตนและคณะเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวพระทั้ง 2 รูปไปทำการสึก จากนั้นได้ควบคุมตัวทิดสึกใหม่ทั้ง 2 คน และนายสถาพร พร้อมของกลางนำไปส่งมอบแก่พนักงานสอบสวน สภ.วังหิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป