นครสวรรค์ - รอง ผบช.ภ.6 นำตำรวจนครสวรรค์แถลงโชว์จับสาวปากน้ำโพจ้างเพื่อนรุ่นพี่จัดฉากให้คนขับรถชน เพื่อสังหารสามีชาวเดนมาร์กวัย 63 ปี ที่ไม่ยอมหย่า-แบ่งสมบัติ คาดหวังมรดก-เงินประกันหลายสิบล้าน
วันนี้ (29 เม.ย. 65) พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.ภาค 6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ และ พ.ต.ท.ปรินทร ภูระย้า หัวหน้าสถานีย่อย สภ.หนองกรด อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนางประทีป ฟาง ลาเซ่น อายุ 48 ปี นางแจ่มจันทร์ คำแก้ว อายุ 60 ปี
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลนครสวรรค์ เลขที่ 98/2565 และหมายจับเลขที่ 992565 ในคดีจ้างวานฆ่านายเพีย ฟาง ลาเซ่น ชาวเดนมาร์ก อายุ 63 ปี โดยให้นายเอกสิทธิ์ วิชาจารย์ อายุ 24 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ ใช้รถเก๋งขับพุ่งชนนายเพีย หวังให้นายเฟียจบชีวิต เพื่อประโยชน์ในการรับเงินค่าประกัน 10 ล้านบาท
รอง ผบช.ภาค 6 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 ร.ต.อ.ภูธร อุ่นแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ย่อยหนองกรด ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุบนถนนสาธารณะในพื้นที่หมู่บ้านที่ 1 ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 1397 ลำปาง ตกอยู่ในท้องนาริมถนน ในสภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย กระจกแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ส่วนคู่กรณี เป็นรถจักรยาน 2 ล้อ ล้มคว่ำอยู่บนไหล่ทาง ห่างจากรถเก๋งไปประมาณ 10 เมตร ในสภาพถูกชนด้านท้ายได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน
เบื้องต้นทราบว่านายเอกสิทธิ์ได้ขับรถเก๋งมาชนท้ายรถจักรยานของนายเพีย ชาวเดนมาร์ก ซึ่งเหมือนดูเป็นอุบัติเหตุทั่วไป แต่จากการสืบสวนสอบสวนทั้งหลักฐานในที่เกิดเหตุ ภาพถ่าย รวมถึงการทำแผนในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธหลายอย่าง และมองว่าอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นการจงใจที่จะชน จึงได้นำตัวนายเอกสิทธิ์มาเค้นสอบปากคำอย่างหนัก
ในที่สุดนายเอกสิทธิ์ยอมเปิดปากให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนางแจ่มจันทร์ให้ขับรถเก๋งพุ่งชนนายเพียเพื่อหวังให้เสียชีวิต และฮุบเงินค่าประกันชีวิต แต่สุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จ เพราะนายเพียไม่ตาย ซึ่งทราบว่าขณะนี้นายเพียได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสวรรค์ อ.เมืองนครสวรรค์
พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ระบุว่า ทันทีที่แผนร้ายถูกเปิดโปงจากปากของนายเอกสิทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานก่อนจะไปควบคุมตัวนางแจ่มจันทร์มาสอบปากคำ แล้วปรากฏว่านางแจ่มจันทร์ให้การซัดทอดว่าได้รับการว่าจ้างมาอีกทอดจากนางประทีป ภรรยาของนายเฟีย ด้วยเงินจำนวน 500,000 บาท ให้จัดหาคนมาฆ่าสามีเพื่อหวังเอาเงินประกันชีวิต
นางแจ่มจันทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่นางประทีป จึงได้ว่าจ้างให้นายเอกสิทธิ์เป็นผู้ลงมือด้วยการขับรถชน โดยจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุในการอำพรางคดี แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติ และพิรุธอะไรหลายๆ อย่าง จนต้องมีการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด และในที่สุดก็พบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวมีเงื่อนงำ เพราะเป็นการจ้างวานฆ่า
สำหรับนายเพียและนางประทีปเป็นคู่สามีภรรยา ใช้ชีวิตอยู่เดนมาร์กมานานหลายปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ที่ผ่านมา เมื่อนายเพียและนางประทีปกลับมาถิ่นบ้านเกิดของภรรยา ก็จะทยอยกว้านซื้อที่นาเอาไว้ จนมีรวมกันอยู่หลายสิบไร่ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
กระทั่งนายเพียและนางประทีปได้ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ทั้งคู่เกิดมีปัญหาระหองระแหงกันเกิดขึ้น จนทำให้นางประทีปขอหย่าเพื่อหวังจะแบ่งสมบัติ แต่กลับติดปัญหาในช่วงโควิด ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศเดนมาร์กได้ และฝ่ายสามีไม่ยอมหย่าด้วย
ทางนางประทีปจึงตัดสินใจว่าจ้างนางแจ่มจันทร์ ซึ่งเคยมีประวัติพัวพันรับจ้างฆ่าคนเมื่อสิบปีที่แล้ว แต่ศาลยกฟ้อง จ้างหลานของตนเอง คือ นายเอกสิทธิ์ มาขับรถเก๋งพุ่งชนนายเฟีย เพื่อแลกกับรถยนต์คันใหม่ที่นางแจ่มจันทร์รับปากจะซื้อให้ หากทำงานสำเร็จ แต่สุดท้ายไม่เป็นดังหวัง นางแจ่มจันทร์จึงได้ให้เงินนายเอกสิทธิ์เพื่อเป็นค่าซ่อมรถเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ก่อนที่ตำรวจจับพิรุธได้ จนมีการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด จนนำไปสู่กับจับกุม 3 ผู้ต้องหาและดำเนินคดีในที่สุด