xs
xsm
sm
md
lg

ตกนรกทั้งเป็น! นร.ม.3 ถูกเสี่ยเจ้าของรีสอร์ตบังคับขายตัวขัดดอกที่ยืมเงินไปรักษาย่า ขู่ไม่ทำจะแจ้ง ตร.-ประจานให้อาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ด.ญ.เอ(นามสมมุติ)
บุรีรัมย์-เหมือนตกนรกทั้งเป็น! นักเรียน ม.3 ร่ำไห้วอนช่วยเหลือ ถูกเสี่ยเจ้าของรีสอร์ตบังคับขายบริการสนองตัณหาแขกที่เข้ามาพักในรีสอร์ตขัดดอก หลังไปยืมเงิน 6,300 บาทรักษาย่าป่วยต้องผ่าตัดด่วน ขู่ไม่ทำจะแจ้งความและประจานให้อาย ด้านแม่บุญธรรมเผยไม่กล้าแจ้งความเพราะเสี่ยอ้างรู้จักตำรวจทั้งโรงพัก


นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลูกบุญธรรม ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.3 ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่าน้องเรียนอยู่ชั้น ม.3 ถูกเสี่ยเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในละหานทราย บังคับให้ขายบริการสนองตัณหาแขกที่เข้ามาพักในรีสอร์ตของตัวเอง เพื่อขัดดอกหลังจากที่น้องไปยืมเงินเสี่ย 6,300 บาท เพื่อนำไปรักษาย่าวัย 70 ปีที่ป่วยต้องผ่าตัดด่วน พอเด็กไม่ยอมไปรับแขกตามที่สั่งก็ถูกขู่จะแจ้งความที่ยืมเงินแล้วไม่จ่าย ทั้งจะประจานให้อับอาย น้องผู้เสียหายจึงจำใจต้องทำ โดยไปรับแขกทั้งหมด 4 ครั้ง จนเด็กทนไม่ไหว อยากจะหยุดแต่ก็ถูกขู่ไม่มีใครช่วยได้ เพราะเขาอ้างรู้จักตำรวจทั้งโรงพัก

 ด.ญ.เอ เล่าว่า เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.2564 เธอมีปัญหาในครอบครัวทะเลาะกับพ่อ ถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน ด้วยความน้อยใจ จึงไปขออาศัยอยู่กับรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่พักอยู่ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง รุ่นพี่คนดังกล่าวก็เลยพาไปแนะนำให้รู้จักกับเฮียเจ้าของรีสอร์ท แต่พอตนไปอยู่ด้วยประมาณ 2 สัปดาห์รุ่นพี่คนดังกล่าวก็มีแฟน แล้วพี่เขาก็ไปอยู่กับแฟนปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วัน ที่รุ่นพี่ไม่อยู่ห้องเสี่ยเจ้าของรีสอร์ตก็เรียกให้เข้าไปหา

เสี่ยถามว่าสนใจมาดูแลเฮียมั๊ย ซึ่งเธอเข้าใจว่าที่เฮียบอกจะให้ไปดูแลคือการไปหุงข้าว ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน หรือไปบีบนวดให้เพราะเฮียอายุมากแล้วน่าจะประมาณ 60 ปี เธอไม่ได้คิดว่าจะให้ไปรองรับตัณหาของเฮีย จึงตอบไปว่าขอคิดดูก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ไปตามที่เฮียชักชวน กระทั่งได้กลับไปอยู่ที่บ้าน


ต่อมาช่วงเดือน ธ.ค.2564 ย่าอายุ 70 ปี ก็ล้มป่วยต้องผ่าตัดถุงน้ำดีในรังไข่ด่วน แต่ที่บ้านไม่มีเงินเธอก็เลยโทรไปขอยืมเงินรุ่นพี่ผู้หญิงที่เธอเคยไปขออยู่ด้วย แต่เขาบอกว่าไม่มีเงินให้ยืมกลับแนะนำให้เธอลองไปขอยืมเฮียเจ้าของรีสอร์ตดู เธอจึงตัดสินใจไปยืมเงินจากเฮียตามที่รุ่นพี่แนะนำ แล้วเฮียก็บอกให้เข้าไปหาเพื่อให้เซ็นสัญญากู้ยืมโดยให้เธอเขียนเองด้วยลายมือ แล้วเธอก็นำเงิน 6,300 บาทที่ยืมไปจ่ายค่ารักษาย่า

กระทั่งช่วงเดือน ธ.ค.64 หรือ ม.ค.65 เฮียก็เรียกเธอเข้าไปหาบอกว่าให้มาดูแลเฮียหน่อย เธอก็เข้าใจว่าเฮียไม่สบายต้องการให้ไปหาข้าว หาน้ำให้กิน เธอก็เลยเข้าไปหาที่รีสอร์ต แต่พอไปถึงเฮียก็กระชากแขนลากเข้าห้อง แล้วเฮียก็จับนม จับก้น แล้วก็ล้วงอวัยวะเพศพยายามจะข่มขืน แต่เธอไม่ยอมจึงดิ้นขัดขืนจนสามารถหนีออกมาได้ ก็เลยโทร.บอกให้เพื่อนมารับออกไป

ด.ญ.เอ ยังเล่าทั้งน้ำตาต่อว่า หลังจากที่เธอหนีออกมาได้ประมาณ 2 เดือน เฮียก็โทร.ไปขู่เธอบอกว่าถ้าไม่มาทำงานใช้หนี้ที่ยืมไป จะไปบอกให้ที่บ้านรู้และจะไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งการทำงานใช้หนี้คือบังคับให้เธอขายบริการให้กับแขกที่มาพักในรีสอร์ต แต่แขกคนแรกเธอนั่งร้องไห้อย่างเดียวจนแขกสงสารจึงไม่ได้ทำอะไร และให้เงินมา 1,500 บาท

จากนั้นเธอก็หายไปไม่ติดกับเฮียเจ้าของรีสอร์ตอีก จนผ่านไปเกือบเดือนเฮียก็โทร.ไปขู่อีกว่าถ้าไม่มาทำงานให้ จะไปแจ้งความและประจานให้ที่บ้านรู้ เธอไม่อยากให้ที่บ้านรู้และคิดมาก เพราะย่าป่วยติดเตียง ปู่ก็เป็นอัลไซเมอร์ เธอก็เลยจำใจต้องไปรับแขกตามที่เฮียสั่งรวมทั้งหมด 4 ครั้ง แต่หนีก็ยังคงเหลือ 6,300 บาทเหมือนเดิม กระทั่งเมื่อ 2 – 3 วันก่อนเฮียก็ไลน์มาให้เข้าไปหาอีก แต่ตนไม่อยากทำงานแบบนี้แล้วจึงตอบปฏิเสธไป แล้วไปขอความช่วยเหลือจากแม่บุญธรรม

เสี่ยเจ้าของรีสอร์ต
ด้าน น.ส.น้อย (นามสมมติ) ซึ่งเด็กผู้เสียหายนับถือเป็นแม่บุญธรรม บอกว่า จากสิ่งที่เด็กเล่าบอกถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากสำหรับเด็กคนหนึ่ง ที่ตัดสินใจไปยืมเงินเพื่อมารักษาย่าป่วย แต่เจ้าของรีสอร์ท กลับพยายามจะข่มขืน แต่พอเด็กไม่ยอมก็ขู่บังคับให้เด็กไปขายบริการให้กับแขกที่มาพักในรีสอร์ตของตัวเอง เพื่อสนองความใคร่ให้กับแขกพวกนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่ที่เด็กยอมทำ เพราะเฮียข่มขู่จะแจ้งความและเอาเรื่องไปประจานที่บ้านเด็กก็กลัวจึงต้องยอมทำ แถมยังขู่ด้วยว่าทำอะไรเขาไม่ได้เพราะเขารู้จักตำรวจในพื้นที่ทุกคน

ตนจึงไม่กล้าพาเด็กไปแจ้งความเพราะหากเป็นเหมือนที่อ้าง ก็กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่ที่นำเรื่องออกมาร้องผ่านสื่อเพราะต้องการให้มูลนิธิฯ หรือหน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือเด็กได้ เข้ามาช่วยเหลือน้องด้วย ซึ่งเบื้องต้นตนก็ได้พาน้องไปตรวจร่างกายที่ รพ. หมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อ และยาป้องกันติดเชื้อ HIV มารับประทาน ตอนนี้ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจเด็กที่โดนกระทำในลักษณะดังกล่าวก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น


กำลังโหลดความคิดเห็น