ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจสืบสวน ภาค4 ยืดอกรับเป็นกลุ่มบุคคลตามที่ร้านกาแฟเมืองอุบลโพสต์คลิปประจานกินแล้วชักดาบ ไม่จ่ายค่าเครื่องดื่มและอาหาร 200 บาท ยอมรับเป็นความเข้าใจผิดกันเอง แต่หลังเห็นคลิปว่อนโซเชียลได้เคลียร์กับทางร้านเรียบร้อยแล้ว พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ในคลิปปรากฏภาพกลุ่มบุคคลเป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำทีเข้ามาสั่งเครื่องดื่มและขนมภายในร้านมูลค่ารวมกว่า 200 บาท หลังกินแล้วพากันเดินออกจากร้านโดยไม่จ่ายเงิน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้มาแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา และมีบางความเห็นระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 4
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในที่สุดก็ทราบว่ากลุ่มบุคคลในคลิป คือ พ.ต.ท.วทัญญู ขาวไชยมหา รองผู้กำกับการสืบสวน บก.สส.ภาค 4 จ.ส.ต.ชยณัฐ และกาสินธ์ และ ด.ต.หญิง รัตติยา มหาสาน สังกัด บก.สส.ภาค 4
โดยตำรวจทั้ง 3 นายเล่าว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมามีภารกิจไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพตำรวจรุ่นน้องที่อำเภอวารินชำราบ แต่ไปถึงก่อนเวลา จึงพากันนั่งดื่มเครื่องดื่มและรับประทานอาหารที่ร้านกาแฟดังกล่าวรอ ทันทีที่ไปถึง ดาบตำรวจตรี หญิง รัตติยาได้เดินไปสั่งเครื่องดื่มก่อน แต่ยังไม่จ่ายเงินเพราะรอจ่ายพร้อมกัน จากนั้น จ.ส.ต.ชยณัฐได้เดินไปสั่งเครื่องดื่มอีกครั้ง คือต่างคนต่างลุกกันไปสั่งเครื่องดื่มและอาหาร พร้อมกับเดินไปเข้าห้องน้ำ ทำให้เข้าใจกันว่ามีคนไปจ่ายให้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงพากันเดินออกจากร้าน และมารู้ตัวอีกทีก็หลังจากที่ทางร้านได้โพสต์ภาพขึ้นเฟซบุ๊ก หลังทราบข่าวก็ได้รีบติดต่อไปยังร้านเพื่อขอเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมกับขอโทษเจ้าของร้านเป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่ พ.ต.ท.วทัญญูบอกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ยืนยันไม่ได้มีเจตนาที่จะโกงค่าอาหารทางร้านกาแฟแต่อย่างใด แต่เกิดจากความเข้าใจผิดกันเองในกลุ่มที่คิดว่าต่างคนต่างจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มไปแล้ว จึงเดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้สอบถามกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และในวันที่ไปใช้บริการที่ร้านก็ได้ถ่ายภาพพร้อมกับโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งแสดงถึงเจตนาว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะเบี้ยวค่าบริการ และหลังจากเกิดเรื่องก็ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับทางร้านเรียงร้อยแล้ว ซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจและยอมรับว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน
