อุทัยธานี - ผู้บริโภคเดือดร้อนซ้ำกันทั้งแผ่นดิน..ราคาหมูปรับขึ้นอีกรอบ แบบขึ้นพระละ 2 บาทต่อกิโลฯ ทำราคาหน้าเขียงพุ่งสูงทะลุกิโลฯ ละ 200 บาท เฉพาะสันคอแพงสุดถึงกิโลฯ ละ 250 บาท ชาวบ้านทำงานทั้งวันได้ 300 บาท แทบซื้อกินไม่ได้
วันนี้ (24 เม.ย. ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศเขียงหมูตลาดสดเทศบาล 2 เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี หลังราคาเนื้อหมูขยับขึ้นมาอีกครั้ง พบว่าหมูหน้าเขียงกลับมามีราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท และสูงสุดที่ 250 บาท หรือภาษาหน้าเขียงเรียกกันว่า ขึ้นพระละ 2 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งหมู 1 ตัวจะอยู่ที่ประมาณ 100 กิโลกรัม ใน 1 เดือนจะมีวันพระทั้งหมด 4 ครั้ง หากเดือนนี้ราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์มขยับขึ้นตลอดทั้งเดือน รวมแล้ว 1 เดือนราคาส่งหมูจะขยับขึ้นมา 800 บาทต่อตัว
พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูแต่ละร้านเล่าว่า ช่วงนี้ราคาเนื้อหมูขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยราคาส่งจะขยับขึ้นมาทุกวันพระ หรือพระละ 2 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ตอนนี้ราคาเนื้อหมูหน้าแผงแต่ละร้านต้องขยับราคาขายขึ้นตามมาเรื่อยๆ ราว 5-19 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งแล้วแต่ฟาร์มและรูปแบบการซื้อหมูยกตัว-หมูชำแหละ
โดยราคาเนื้อหมูเช้านี้ สันคออยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท เนื้อแดงกิโลกรัมละ 200 บาท เนื้อสันในกิโลกรัมละ 220 บาท เนื้อสันนอกกิโลกรัมละ 220 บาท สามชั้น กิโลกรัมละ 250 บาท หมูบดกิโลกรัมละ 200 บาท ซี่โครงกิโลกรัมละ 200 บาท กระดูกเล้งกิโลกรัมละ 70 บาท
พ่อค้าแม่ค้าแผงหมูทุกร้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงนี้ราคาเนื้อหมูขยับขึ้นมาอีกรอบ ประกอบกับแต่ละเขียงจะรับหมูมาจากฟาร์มต่างกันจึงทำให้ราคาต้นทุนแตกต่างกันออกไปแต่ไม่มากนัก โดยหมูตัวเป็นๆ ตอนนี้รับมากิโลกรัมละ 100 บาท หมูชำแหละแล้วกิโลกรัม ละ 119 บาท ทำให้ราคาหน้าแผงต่อกิโลกรัมจะแตกต่างกันออกไปที่กิโลกรัมละ 5-10 บาท
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ช่วงนี้ยอดการซื้อเนื้อหมูกลับมาลดลงอีกครั้ง ประชาชนบริโภคเนื้อหมูน้อยลงอย่างชัดเจน ทำให้หน้าเขียงช่วงนี้เงียบเหงา ยอดขายลดลง และขายได้เพียงพ่อค้าแม่ค้าที่มาซื้อเนื้อหมูไปทำกับข้าวถุงและเปิดร้านขายอาหารตามสั่งกันเป็นหลัก
“สภาวะเศรษฐกิจ ตอนนี้ค่าแรงชาวบ้านส่วนใหญ่ 1 วัน อยู่ที่ 300 บาท ซื้อเนื้อหมู 1 กิโลกรัมก็แทบจะหมดแล้ว ซึ่งยังไม่รวมค่าน้ำมันรถและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ทำให้คนที่มีค่าแรงขั้นต่ำแทบจะไม่สามารถซื้อหมูเป็นกิโลกรัมกินกันได้เลย”