สุรินทร์ - ตั้ง กก.สอบแล้ว ครูหื่นพา นร.หญิง ม.3 เข้าม่านรูดทำอนาจารแก้เกรดติด “ร.” ถูกตำรวจบุกรวบคาห้อง แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ล่าสุด “สพม.33 สุรินทร์” ตั้งกรรมการสอบเอาผิดทางวินัย พร้อมย้ายมาเข้าเขตฯ ส่วนคดีให้ตำรวจดำเนินการ แฉทำกับลูกศิษย์มาหลายคน ด้าน ผอ.โรงเรียนยันไม่ได้โทร.เคลียร์ผู้ปกครองให้ปิดเรื่อง
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ บุกจับกุมครูโรงเรียนชื่อดัง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พานักเรียนหญิงชั้น ม.3 เข้าโรงแรมม่านรูด หลังพลเมืองดีแจ้งว่ามีพฤติกรรมชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจาร ซึ่งเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ในข้อหา “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย” และผู้ถูกจับกุมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โดยก่อนเกิดเหตุตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า ได้ติดตามข้อมูลบุคคลรายนี้มาโดยตลอด คือ อาจารย์สอนวิชาสังคมศึกษา สอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ มีพฤติกรรมชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจารอยู่บ่อยครั้ง และสายลับพยายามเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐานให้มากที่สุด ต่อมาตามวัน เวลาเกิดเหตุ สายลับได้พบเห็นชายคนดังกล่าวขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียนสุรินทร์ มาจอดรับนักเรียนบริเวณโรงเรียนดังกล่าว และขับออกไป สายลับเมื่อพบเห็นดังนั้นจึงขับรถตามไป จนพบว่ารถคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าไปจอดภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง สายลับจึงโทร.ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์มาตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมาถึงได้แสดงตนเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว พบครูคนดังกล่าวอยู่ภายในห้องกับนางสาวนา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนระดับชั้นมัธยมปีที่ 3 โดยตำรวจชุดจับกุมพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ผู้ถูกจับกุมพาหญิงผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 17 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี มาจากการปกครองดูแลของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล พามาในที่โรงแรมม่านรูด ประสงค์มุ่งหวังเพื่อการอนาจาร ถือเป็นความผิดข้อหา "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 นำส่ง พ.ต.ต.แสงหิรัญ แก้วดี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป พร้อมเตรียมขยายผล เชื่อเคยกระทำกับลูกศิษย์มาแล้วหลายคน
จากการสอบถาม นางสาวนา นามสมมติ บอกว่า ตัวเองนั้นมีผลการสอบติด "ร." จึงขอสอบแก้วิชาที่ "ติด ร." คือ วิชาสังคมศึกษา ก็ได้มาที่โรงเรียนเพื่อพบครูคนดังกล่าว ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาสังคมศึกษา จากนั้นครูได้ชวนตนออกมาข้างนอกมานั่งรับประทานข้าวและเหล้าเบียร์ได้สักพัก ได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกมาแล้วได้เลี้ยวเข้าไปที่โรงแรมม่านรูดดังกล่าว พร้อมกับชักชวนตนเข้าไปนั่งคุยกันก่อน พอตนเข้าไปในห้องพัก ครูได้พูดกับตนว่าต้องการเงินเท่าไร 500 หรือ 2,000 บาท ตนก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่บอกว่าทำไมอาจารย์ทำแบบนี้ จากนั้นนายสมิงก็ได้เข้ามาลูบคลำขาอ่อน และจับหน้าอกตน ซึ่งตนนั้นได้ปัดออก ช่วงเวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเคาะห้อง จึงรอดพ้นจากครูหื่นคนนี้
ด้านผู้ปกครองของผู้เสียหายกล่าวว่า ได้มีตำรวจที่ สภ.เมืองสุรินทร์ โทร.หาตนให้ตนมาที่ สภ.เมืองสุรินทร์ด่วน ตนมาจึงพบว่าลูกสาวถูกครูคนนี้ลวนลามทำอนาจาร รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ พร้อมกันนี้ทางผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนดังกล่าวโทร.มาบอกว่าให้เรื่องมันจบไป อย่าให้ทางโรงเรียนเสื่อมเสียเลย ซึ่งทางตนตอบไปว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (5 เม.ย.) ที่โรงเรียนนาดีวิทยา ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ครูคนดังกล่าวสอนวิชาสังคมศึกษาอยู่ที่นี่ ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 สุรินทร์ (สพม.33 สุรินทร์) ได้เรียกประชุมเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมี นายชวลิต เจนเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษามัธยมศึกษา 33 สุรินทร์ นายทศพร สระแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนนาดีวิทยา นางอรุณศรี พันธุ์ศักดานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการศูนย์เสมารักษ์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ และ นางสาวสุพรรณรัตน์ ลับโกษา นักพัฒนาการเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุรินทร์ ร่วมประชุม
ภายหลังการประชุม นายชวลิต เจนเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษามัธยมศึกษา 33 สุรินทร์ กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน ทาง สพม.33 สุรินทร์ ได้เข้ามาติดตามปัญหาและสอบถามเหตุการณ์จาก ผอ.โรงเรียนนาดีวิทยา ยืนยันว่าทางโรงเรียนได้มีการติดต่อสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ผู้ปกครองและนักเรียนคนดังกล่าว และไม่มีเรื่องที่ทาง ผอ.โรงเรียนโทร.ไปบอกผู้ปกครอง ไม่ให้เอาเรื่องไม่ให้นำเรื่องนี้ไปขยายความต่อเพราะโรงเรียนจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนเองได้มีการสอบถาม ผอ.โรงเรียนแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการพูดลักษณะขอร้องผู้ปกครองไม่ให้เอาเรื่องขอให้ยุติปัญหา ให้เรื่องเงียบไป เรื่องนี้ไม่จริง
ขณะนี้ ทาง สพม.33 สุรินทร์ได้มีคำสั่งให้ครูคนดังกล่าวไปรายงานตัว ปฏิบัติหน้าที่ที่ สพม.33 สุรินทร์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อให้การสอบสวนดำเนินไปอย่างยุติธรรม และให้ตั้งกรรมการสอบสวน เรื่องนี้ให้ได้ข้อสรุปเร็วที่สุด ซึ่งจะมีการดำเนินการทางวินัย ส่วนเรื่องกฎหมาย ตำรวจจะดำเนินการต่อไป
ด้าน นายทศพร สระแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนนาดีวิทยา กล่าวว่า จากการสอบถามแม่ของเด็ก ทราบว่าครูนัดไปเจอกันที่ในเมืองสุรินทร์ แล้วให้นักเรียนมารอ แล้วขึ้นรถไปกับคุณครู ในส่วนที่ตำรวจ ทราบและผู้ปกครองทราบว่าเด็กไปกับใคร ติดตามกันอย่างไรเรื่องนั้นไม่ทราบแต่จะมารับกันที่หน้าโรงเรียน เรื่องนี้ไม่น่าจะใช่ เพราะตนเองก็อยู่ที่โรงเรียน ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ครูมาปฏิบัติหน้าที่เฉพาะครูเวรเท่านั้น
ส่วนช่วงที่มีการจับกุมในโรงแรมทำไมตำรวจถึงเข้ามาเร็ว มีการเตรียมการมาก่อนหรือไม่เรื่องนั้นไม่ทราบ ส่วนพฤติการณ์ของครู บุคลิก ทำงานนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ก้าวร้าว ไม่มีการร้องเรียนเรื่องละเมิดเด็ก เด็กคนนี้มาสอบซ่อม รุ่นของเขาเรียนจบไปปีที่แล้ว เขามาอยู่ที่บ้านพักครู มีครูที่ปรึกษาคอยดูแล ให้การดูแล เพื่อให้เด็กเรียนสอบซ่อม เพื่อเรียนให้จบ รุ่นเขาจบไปแต่ปีที่แล้ว แต่ทางเขต สพม.33 สุรินทร์ ร่วมกับทางโรงเรียนนาดีวิทยา ช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่เรียนไม่จบ ให้มาเรียนซ่อมให้จบ แต่เขาเรียนได้ 3 สัปดาห์ก็มาเกิดเรื่องเสียก่อน
ส่วนเรื่องที่โรงเรียนติดต่อผู้ปกครองขอให้เรื่องเงียบ ไม่ให้เสื่อมเสียแก่โรงเรียน เป็นเรื่องไม่จริง ตนเองไม่ได้ห้ามผู้ปกครองพูด ตนเองพูดกับผู้ปกครองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ให้ทางโรงเรียนช่วยเหลืออะไร ให้คำปรึกษาว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไร ในเรื่องคดีความให้ตำรวจดำเนินการ ส่วนเรื่องข้าราชการครูทำเรื่องจะมีการดำเนินการทางด้านวินัย ซึ่งเราไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น
ด้าน นางสุพรรณรัตน์ ลับโกษา นักพัฒนาการเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุรินทร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของพัฒนาสังคม จ.สุรินทร์และบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุรินทร์ มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาติดตามและประชุมโดยสหวิชาชีพ ในส่วนเจ้าหน้าที่เองจะลงไปสอบเด็ก ซึ่งเป็นคดีแล้วและจะต้องไปสอบที่ สนง.อัยการ จ.สุรินทร์ จะมีพนักงานสอบสวน ผู้เสียหาย และมารดาของเด็กด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เพิ่งได้รับข้อมูลมาและเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา สหวิชาชีพก็จะทำการสอบสวนผู้เสียหายต่อไป