เชียงใหม่ - กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่แถลงปฏิเสธข่าวลือทุ่มทุน 284 ล้านเหรียญสร้างสถานกงสุลฯ แห่งใหม่ใช้เป็นแหล่งซ่องสุมอาวุธและแสดงฐานอำนาจในภูมิภาค ระบุทำทุกอย่างเปิดเผยไม่มีความลับ วอนมุ่งให้ความสำคัญและสนใจที่เรื่องความสัมพันธ์และการสร้างความร่วมมือกัน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ วานนี้ (23 มี.ค. 65) นายฌอน เค.โอนีลล์ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายไมเคิล โกรอาร์ค ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่แห่งใหม่ ร่วมกันแถลงเกี่ยวกับการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่แห่งใหม่ ซึ่งตั้งบนที่ดินติดถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในประเด็นกระแสข่าวว่าสหรัฐฯ จะใช้สถานกงสุลแห่งใหม่นี้ที่ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 284 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นที่ซ่องสุมกำลังอาวุธและจอดเฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งแสดงฐานอำนาจในภูมิภาคต่อต้านจีนในการเข้ามามีบทบาทและอำนาจในภูมิภาค
กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ชี้แจงว่า ในจังหวัดเชียงใหม่มีสถานกงสุลของ 5 ประเทศตั้งอยู่ ซึ่งสถานกงสุลสหรัฐฯ เป็น 1 ใน 5 โดยที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ที่เชียงใหม่จัดตั้งมาแล้ว 72 ปี และสหรัฐฯ เป็นมิตรประเทศกับไทยมากว่า 200 ปี มีความร่วมมือกันทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและการศึกษามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน รวมทั้งทางภาคเหนือของประเทศไทยด้วย และได้อำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยถึง 12 ล้านคนที่มาใช้บริการที่สถานกงสุลแห่งนี้
สำหรับเรื่องข่าวลือต่างๆ นั้นทางสถานกงสุลฯ เองก็ได้เห็นจากข่าวในสื่อ ซึ่งก็น่าแปลกใจว่าทำไมประชาชนคนไทยไม่ให้ความสนใจความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่สหรัฐฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในประเทศทั้งด้านความมั่นคง ด้านการศึกษา สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเศรษฐกิจ แต่ไปมองว่าการที่สหรัฐฯ ใช้เงินกว่า 284 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างสำนักงานสถานกงสุลใหญ่แห่งใหม่ ซึ่งจะรวมไปถึงการจ้างแรงงานก่อสร้างกว่า 400 คน จัดซื้อที่ดินและสำนักงานแห่งใหม่จะเป็นอาคารสำนักงานที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นมีเป้าหมายอย่างอื่น
โดยกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ยืนยันว่าสถานกงสุลฯ แห่งใหม่ที่จะก่อสร้างเสร็จในเดือน มี.ค. 2567 หรืออีกประมาณ 2 ปี ไม่มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์หรือสถานที่ใช้จัดเก็บอาวุธอย่างแน่นอน เพราะไม่สามารถปกปิดเป็นความลับได้ แม้เชียงใหม่จะมีรถติดจนบางครั้งอยากจะใช้เฮลิคอปเตอร์เดินทางไปไหนต่อไหนแทนบ้าง แต่ก็คงทำแบบนั้นไม่ได้ และข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่สหรัฐฯ มักจะเจอตลอดเวลาที่สหรัฐฯ ไปดำเนินการอะไรขึ้นมาใหม่ และเวลามีข่าวลือเกิดขึ้นก็เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่าทำไมคนไม่สนใจว่า 72 ปีที่สถานกงสุลฯ ในเชียงใหม่ได้ทำอะไรไปบ้าง กลับไปสนใจเรื่องอื่น พร้อมย้ำว่าที่จริงแล้วสหรัฐฯ มีการเปิดเผยข้อมูลตลอด พอบอกว่าได้ใช้เงินลงทุนก่อสร้างมากก็ไปคิดในแง่อื่นและพอเอาโมเดลการก่อสร้างให้ดูคนก็เอาไปตีความเป็นอย่างอื่นอีก
ส่วนท่าทีของประเทศไทยเกี่ยวกับกรณีการสู้รบกันระหว่างยูเครนกับรัสเซียนั้น กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ระบุว่า สหรัฐฯ กับไทยเป็นพันธมิตรกันมายาวนานเป็นหุ้นส่วนเก่าแก่กว่า 200 ปี แม้จะเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ทางการค้า แต่ต่อมาก็มีการขยายความสัมพันธ์ครอบคลุมไปหลายๆ ด้านและมีสนธิสัญญาด้านความมั่นคงและทำงานร่วมกับไทยในการรักษาความปลอดภัยด้านชายแดนและปกป้องประเทศไทยจากอาชญากรต่างๆ ด้วยความร่วมมือที่มีทำให้มีการฝึกอบรมและตอบสนองในด้านต่างๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงก็จะได้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยในด้านการเมืองนั้นประเทศไทยมีเพื่อนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการเช่นเดียวกัน และสหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการให้ประเทศไทยต้องเลือกประเทศใดประเทศหนึ่ง ด้วยความสัมพันธ์ตลอดที่มีมายาวนานเป็นความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและจะสนับสนุนเช่นนี้ต่อไป