ศรีสะเกษ - 117 รพ.สต.แต่งชุดดำตะโกนก้องหน้าศาลากลางจังหวัดฯ ขอโอนไปสังกัด อบจ. วอนผู้มีอำนาจอย่ารั้งไว้ ยื่นหนังสือถึง “ลุงตู่” ขอให้ทบทวนมติ ครม. 15 มี.ค. 65 ที่ให้โอนไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษเพียง 13 รพ.สต.เท่านั้น ชี้หากอนุมัติให้โอนได้ต้องโอนไปทั้ง 117 รพ.สต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ หลังเก่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีสมาชิกของชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ (รพ.สต.) จำนวนประมาณ 100 คน นำโดย นายเกียรติคุณ ทวี ผอ.สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิซรอล ในฐานะประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ พากันแต่งกายด้วยชุดดำพร้อมทั้งชูป้ายมีข้อความว่า รพ.สต.ศรีสะเกษ พร้อมถ่ายโอน (ใครสมัครใจถ่ายโอนต้องได้ถ่ายโอน) ใครขวางต้องมี ม.157 (เราไม่อยากฟ้องด้วยความเคารพ), รพ.สต.ศรีสะเกษ สนับสนุนการถ่ายโอนไป อบจ.ยุติการดึงรั้ง สธ.โปรดอย่าลับ ลวง พราง, ปัญหาสุขภาพในท้องถิ่นต้องให้ท้องถิ่นแก้ไข, รพ.สต.โอนไป อบจ.ก็ทำงานดูแลพี่น้องประชาชนได้เหมือนกันได้โปรดปล่อยเราไป พร้อมทั้งพากันตะโกนเสียงดังก้องทั่วบริเวณศาลากลาง จ.ศรีสะเกษว่า เราจะไป อบจ. เราจะไป อบจ. เราจะไป อบจ. เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการมาชุมนุมครั้งนี้
นายเกียรติคุณ ทวี ผอ.สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิซรอล ในฐานะประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การมาชุมนุมในครั้งนี้เนื่องจากได้มีกฎหมายให้พวกเราถ่ายโอน ตามกฎหมาย พ.ร.บ.กระจายอำนาจตั้งแต่ปี 2542 แต่การถ่ายโอนไม่ประสบผลสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ มี รพ.สต.ที่ถ่ายโอนไปเพียง 84 แห่งทั้งประเทศ ต่อมาช่วงหลังมีการถ่ายโอนไปอยู่ อบจ .ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่มีพวกเราถ่ายโอนทั้งประเทศ 3,000 กว่าแห่ง ซึ่งเป็น รพ.สต.ที่สมัครใจและศรีสะเกษของเรามีสมัครใจถ่ายโอนไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ จำนวน 117 แห่ง แต่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 เพียง 13 แห่งเท่านั้น ซึ่งเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายที่จะให้มีการถ่ายโอน
พวกเราจึงได้พากันมาชุมนุมกันในครั้งนี้ และได้ยื่นหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรีผ่าน ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อต้องการเรียกร้องไปถึงรัฐบาล เพื่อขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติการเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 และขอให้พิจารณาให้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และ รพ.สต.จำนวน 117 แห่ง บุคลากรสมัครใจถ่ายโอน จำนวน 786 คน ที่ อบจ.ศรีสะเกษขอรับถ่ายโอน ได้ถ่ายโอนให้ทันภายในปีงบประมาณ 2566 โดยไม่ให้มีส่วนราชการใดประวิงเวลาให้ชักช้า
และขอให้พิจารณาเห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนทั่วไปแก่สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต.ตามที่กำหนดการจัดสรรงบประมาณไว้ในคู่มือหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอน ภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต.ให้แก่ อบจ.วันที่ 5 ต.ค. 2564 ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2564 ตามขนาดหน่วยบริการ โดยขนาดเล็ก สนับสนุนงบประมาณ 1 ล้านบาทต่อปี ขนาดกลาง ให้สนับสนุนงบประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อปี ขนาดใหญ่ ให้สนับสนุนงบประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี
ต่อมา นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ลงมาพบกับกลุ่มชมรม รพ.สต.จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งได้รับหนังสือ ที่ ช.รพ.สต.ศก.1/2565 ลว. 21 มี.ค. 2565 เรื่อง ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติการเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2566 วันที่ 15 มี.ค. 2565 โดยหนังสือฉบับดังกล่าว กราบเรียน นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีการแนบรายชื่อสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต.จ.ศรีสะเกษ ที่สมัครใจขอถ่ายโอน
นายสำรวยกล่าวว่า ตนมารับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มชมรม รพ.สต.จ.ศรีสะเกษ เพื่อจะได้นำเอาไปเสนอ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้รับทราบ จากนั้นจะได้ส่งเรื่องไปให้หน่วยเหนือเพื่อโปรดพิจารณาต่อไป
หลังจากนั้น กลุ่มชมรม รพ.สต.จ.ศรีสะเกษได้พากันเดินทางไปที่ อบจ.ศรีสะเกษ ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยได้ไปพบกับ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ และคณะ โดยได้มีการชูป้ายเพื่อแสดงเจตนารมณ์ข้อเรียกร้องขอถ่ายโอนมาสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายวิชิตได้พบปะกับกลุ่มที่มาพบอย่างเป็นกันเองฉันญาติมิตร พร้อมทั้งรับฟังข้อเรียกร้องที่นายเกียรติคุณ ทวี ประธานชมรม รพ.สต.จ.ศรีสะเกษ ได้แจ้งให้ทราบ
นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เราได้มีการเตรียมการมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งกฎหมายได้ให้ทาง อบจ.ศรีสะเกษถือปฏิบัติตามอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อมีกฎหมายการเตรียมการย่อมที่จะต้องเกิดขึ้น และตนมองว่าด้านสุขภาพจริงๆ แล้วก็เป็นคนในท้องถิ่นของเรา เมื่อท้องถิ่นของเราต้องการที่จะเข้าไปดูแลเองมันก็คงไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรและเชื่อว่าน่าจะทำได้ดีกว่าด้วย
แต่เราไม่มีอำนาจตรงนั้นที่จะบอกว่าคุณต้องมาหรือไม่มาอย่างไร แต่ขั้นตอนต่างๆ อบจ.ศรีสะเกษผ่านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะกรรมการกระจายอำนาจได้มาประเมินผลการประเมินก็ทราบว่าอยู่ในระดับดีเยี่ยม ซึ่งในระดับดีเยี่ยมนี้สามารถที่จะรับการถ่ายโอน รพ.ส.ต.ได้ทั้งจังหวัด แต่ตนคงไม่เอาจนถึงขนาดนั้น เอาเฉพาะที่เขาสมัครใจที่จะมา หากไม่มาก็ไม่เป็นไร หากเขาจะมาเราก็ยินดีที่จะรับ