เชียงใหม่ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสั่งการ 17 จังหวัดภาคเหนือยกระดับคุมเข้มการเฝ้าระวังปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองเป็นพิเศษตลอดช่วงเดือนมีนาคม ถึงเมษายนนี้
วันนี้ (19 มี.ค. 65) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) ทส. อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งมีผู้แทนส่วนราชการจาก 17 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมรับฟังรายงานสรุปภาพรวมการดำเนินงานผ่านระบบ VDO Conference
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อหวังลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะปัญหาด้านสุขภาพ ด้วยการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ผ่านกลไกคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2565 “1 สื่อสาร 5 ป้องกัน 3 เผชิญเหตุ”
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 ซึ่งได้กำชับให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยยกระดับการทำงานทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาทุกมิติ เน้นย้ำการห้ามเผา รวมถึงการกำหนดเขตความรับผิดชอบและมอบหมายการปฏิบัติที่ชัดเจน พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นอกจากนี้ยังให้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานในระดับพื้นที่ ใช้บทเรียนที่ได้จากการดำเนินงานที่ผ่านมา เป็นองค์ความรู้ในการกำหนดแผนงานและการปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทุกจังหวัด สนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองระดับจังหวัดอย่างเต็มที่ เน้นการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว และทันเหตุการณ์ โดยเฉพาะการเกิดจุดความร้อน (Hot spot) การพยากรณ์ปัญหาฝุ่นละอองล่วงหน้า และให้การดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงานอย่างสูงสุด
สำหรับสถานการณ์จุดความร้อนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่เดือนมกราคม-ปัจจุบัน (18 มี.ค. 2565) พบจุดความร้อน (Hot spot) ลดลงร้อยละ 69 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ซึ่งเมื่อแยกจุดความร้อนตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน พบว่า 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ป่าเป็นส่วนใหญ่ (ร้อยละ 87) ในขณะที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างเกิดจุดความร้อนในพื้นที่เกษตรเป็นส่วนใหญ่ (ร้อยละ 59) ส่วนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ลดลงถึงร้อยละ 38