บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด (เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง) ผู้นำด้านเมล็ดพันธุ์ จับมือกับ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ลงนามในบันทึกข้อตกลง “ร่วมพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดและพืชผักเขตร้อน” เป็นความร่วมมือในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดหวานและข้าวโพดข้าวเหนียวสู่ตลาดพร้อมรับประทาน ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่ปัจจุบันมีความเร่งด่วนในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังคงต้องการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร
จากการร่วมมือในครั้งนี้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด (เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง) เป็นผู้นำด้านสายพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียว และข้าวโพดหวานที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้บริโภคและเกษตรกรอยู่แล้ว และยังมีสายพันธุ์กลุ่มผักสลัดที่มีคุณภาพสูงอีกด้วย โดยจะผลิตและส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้กับบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปให้เกษตรกรเพาะปลูก และรับซื้อเพื่อนำมาผลิตและแปรรูปเป็นอาหารพร้อมรับประทานสำหรับตลาดในประเทศและต่างประเทศ
สายพันธุ์ที่ทั้ง 2 บริษัทฯ ได้เลือกสรรมา เพื่อส่งต่อความอร่อยให้ผู้บริโภคมีดังนี้
- ข้าวโพดหวาน F1 จัมโบ้สวีต โดดเด่นด้วยรสชาติที่หวาน หอม กรอบ อร่อย เมล็ดเต่งสีเหลืองอ่อน
- ข้าวโพดหวาน F1 ฮันนีคิงส์ มีเอกลักษณ์ด้านฝักที่อวบใหญ่ หวาน อร่อย ผลผลิตสูง
- ข้าวโพดข้าวเหนียว F1 สวีตไวโอเลต สายพันธุ์ที่ขายดีที่สุดของศรแดง มีเมล็ดสีขาว-ม่วง เหนียว หวาน อร่อย
- กลุ่มผักสลัด เช่น กรีนโอ๊กพลัส รูบีคอส ไวน์โอ๊ก เป็นต้น
นอกจากนี้ซันสวีทยังได้มอบเครื่อง Corn Cutter ให้กับ อีสท์ เวสท์ ซีด เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพด ให้มีเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตร้อยละ (%Yield) ที่ตรงตามความต้องการในการผลิต
นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เปิดเผยว่า “ในปีนี้ทางอีสท์ เวสท์ ซีด ครบ 40 ปี ซึ่งเรามีการพัฒนาในเรื่องของนวัตกรรมเมล็ดพันธุ์และสายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา สายพันธุ์ที่เราออกสู่ตลาดต้องเป็นสายพันธุ์ที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และต้องมีคุณค่าทางอาหารสูงพร้อมทั้งถูกปากผู้บริโภคอีกด้วย
การร่วมมือกับซันสวีทในครั้งนี้มองว่าทั้ง 2 แบรนด์ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ตราศรแดงและซันสวีท เราทั้งคู่ต่างเป็นผู้นำอยู่แล้ว ทางอีสท์ เวสท์ ซีดมีสายพันธุ์ข้าวโพดที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์สวีตไวโอเลต จัมโบ้สวีต ฮันนีคิงส์ เป็นต้น ส่วนทางซันสวีทเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารแปรรูป มีตลาดที่แข็งแกร่งทั้งใน และนอกประเทศ
การร่วมมือในครั้งนี้นอกจากที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดี มีตลาดที่มั่นคงขึ้น จะทำให้เราทั้งคู่สามารถส่งต่อสายพันธุ์ข้าวโพดที่ดีไปถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นแน่นอน นอกจากนี้เรายังร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์เกษตรกรและผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งผมต้องขอบคุณทางซันสวีทที่ได้มอบเครื่อง Corn Cutter ให้กับทางอีสท์ เวสท์ ซีดด้วย”
ด้าน นายอิสระ วงศ์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด กล่าวว่า ตลาดข้าวโพดเพื่อบริโภคทั้งข้าวโพดข้าวเหนียวและข้าวโพดหวานนั้นขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยข้าวโพดข้าวเหนียวจะบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ส่วนข้าวโพดหวานจะมีการแปรรูปเพื่อส่งออก
ข้อมูลล่าสุดตลาดฝักสดมีความต้องการอยู่ที่ 2.0-2.3 ล้านตันต่อปี ผลผลิตสามารถนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเมื่อคิดเป็นมูลค่าทางการตลาดสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศถึง 10,000 ล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกร หรือผู้ที่สนใจในการทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
“ความร่วมมือกับซันสวีท เรามองว่าจะช่วยให้เกษตรกรไทยมีตลาดที่มั่นคงและกว้างขึ้น ศรแดงเรามีองค์ความรู้ด้านการปลูกเป็นอย่างดีบวกกับสายพันธุ์ที่มีคุณภาพของเรา ส่วนทางซันสวีทเป็นผู้รับซื้อผลผลิตเหล่านี้ไปแปรรูปต่อทำให้เกษตรกรมีตลาดรองรับที่แน่นอน เราจึงมองว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจเกษตรของไทยเติบโตขึ้นซึ่งหมายถึงเกษตรกรจะมีรายได้ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนด้วยครับ” นายอิสระกล่าว
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท “KC” เปิดเผยว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไทยให้เติบโตในตลาดโลกนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกันในอุตสาหกรรม เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่
ในปี 2565 บริษัทมีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร โดยมุ่งเน้นในด้านคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเล็งเห็นว่า อีสท์ เวสท์ ซีด ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ มีศักยภาพสูงในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชสำหรับปลูก ให้มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อการจำหน่ายและส่งออก
การลงนามความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดหวาน และพันธุ์ผักร่วมกัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในการเพิ่มขีดความสามารถทางการเกษตร และให้มีเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตร้อยละ (%Yield) ที่ตรงตามความตองการในการผลิต ถือเป็นโอกาสดีที่ของทั้งสองบริษัท ในการร่วมมือเพื่อประโยชน์โดยภาพรวมของธุรกิจและเกษตรกรผู้ผลิตข้าวโพดหวาน และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านเมล็ดพันธุ์พืช ให้มีศักยภาพในการแข่งขันของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป