xs
xsm
sm
md
lg

ไฟป่าสันทรายลามหนักไหม้ทั้งดอยข้ามคืนยังดับไม่ได้ ส่ง MI-17 ช่วย-ค่ามลพิษอากาศเชียงใหม่พุ่งกระทบสุขภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ-WEVO สื่ออาสา
เชียงใหม่ - ไฟป่าสันทรายลุกลามหนัก ไหม้ทั้งดอยข้ามคืนยังดับไม่ได้ จนท.และชาวบ้านระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์แต่ยังเอาไม่อยู่ ด้านกองทัพภาค 3 ส่งเฮลิคอปเตอร์ MI-17 สนับสนุนโปรยน้ำช่วยบรรเทาความรุนแรงของเชื้อเพลิง ขณะที่ค่ามลพิษอากาศเชียงใหม่พุ่งต่อเนื่อง เกินมาตรฐานทั้งฝุ่น PM 2.5 และดัชนีคุณภาพอากาศเริ่มรุนแรงกระทบสุขภาพ

ภาพ-WEVO สื่ออาสา
วันนี้ (3 มี.ค. 65) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตั้งแต่คืนที่ผ่านมาเกิดไฟไหม้ป่าบนดอยในพื้นที่บ้านวังขุมเงิน หมู่ที่ 10 ตำบลแม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยไฟลุกลามเป็นแนวยาวต่อเนื่อง สามารถเห็นได้ในระยะไกล ซึ่งจุดที่เกิดไฟไหม้นี้เป็นป่าฝั่งเหนือของตำบลแม่แฝกใหม่ เป็นรอยต่อกับป่าแม่แฝกและใกล้กับจุดที่เกิดไฟไหม้ป่าเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ทั้งนี้ เบื้องต้นชาวบ้านในบ้านวังขุมเงินเล่าว่า สังเกตเห็นแนวไฟในบริเวณดังกล่าวค่อยๆ ลุกลามจากเชิงดอยในทุกด้าน ลามขึ้นสู่ยอดดอย โดยเช้าวันนี้ฝ่ายปกครองอำเภอสันทรายได้นำเจ้าหน้าที่จากตำบลแม่แฝก ตำบลแม่แฝกใหม่ ตำบลหนองแหย่ง ร่วมกับชุดเหยี่ยวไฟเชียงใหม่ เร่งลงพื้นที่และช่วยดับไฟ

ด้านกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ส่งเฮลิคอปเตอร์ MI-17 สนับสนุนภารกิจดับไฟป่าในครั้งนี้ด้วย โดยได้นำ MI-17 ไปติดตั้งแบมบี้ (Bambi bucket) หรือถุงใส่น้ำ ที่โรงเรียนชลประทานเขื่อนแม่กวงจิราธิวัฒน์อุปถัมภ์ แล้วตักน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด เพื่อนำไปโปรยน้ำ ช่วยบรรเทาความรุนแรงของเชื้อไฟในพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ป่าดังกล่าว


ทั้งนี้ พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 สนับสนุน MI-17 ดับไฟป่า ที่บ้านวังขุมเงิน หมู่ 10 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภายหลังเกิดไฟป่าในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ และมีท่าทีที่ดับยาก ประกอบกับมอบหมายให้ชุดดับไฟจากมณฑลทหารบกที่ 33 จำนวน 10 นาย เข้าพื้นที่พร้อมทางอำเภอ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่เพื่อทำแนวกันไฟ

ขณะที่จากการตรวจสอบสภาพอากาศทางภาคเหนือเช้าวันนี้ พบว่าภาคเหนือมีค่า PM 2.5 เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 42-113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 56-137 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI อยู่ระหว่าง 67-223 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมี 13 จังหวัดที่ค่าคุณภาพอากาศเกินเกณฑ์มาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, ลำปาง, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, น่าน, แพร่, พะเยา, ตาก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก, พิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์
โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน และในพื้นที่ที่มีไฟป่าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะป่าสงวน พื้นที่เกษตรและป่าอนุรักษ์ ขณะที่ลมจากทิศตะวันตกพัดเข้ามายังประเทศไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้ปริมาณค่าฝุ่นควันจากการเผาในอากาศเกินค่ามาตรฐาน นอกจากนั้นยังเป็นผลมาจากความกดอากาศต่ำ ประกอบกับภาคเหนือของไทยมีภูมิประเทศเป็นลักษณะหุบเขา แอ่งกระทะ ทำให้ฝุ่นไม่ลอยตัว


สำหรับจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64-2 มี.ค. 65 มีจำนวน 13,928 จุด เมื่อเทียบปี 64 ( 36,394 ) ลดลง 22,466 จุด คิดเป็น 61.73% เมื่อเทียบปี 63 ( 61,518 ) ลดลง 47,590 จุด คิดเป็น 77.36% ทั้งนี้ ทางแม่ทัพภาคที่ 3 ได้กำชับและประสานงานให้ผู้ว่าราชการ 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกาศงดการเผาในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1-31 มี.ค. 65 เพื่อลดปริมาณหมอกควันในพื้นที่

ส่วนสภาพตัวเมืองเชียงใหม่วันนี้พบว่ายังถูกฝุ่นควันที่สะสมตัวในอากาศปกคลุมต่อเนื่องโดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอแม่แจ่ม พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 58 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 51ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 57ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 71ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 119, 101, 116 และ 152 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐาน 100 ซึ่งภาพรวมคุณภาพอากาศถือว่าอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ





ภาพ-WEVO สื่ออาสา






กำลังโหลดความคิดเห็น