พะเยา - อีกหนึ่งช่องทางทำกินน่าสนใจยุคข้าวยากหมากแพง..กำนันสาวภูซางหนุนชาวบ้านสับมันสำปะหลังเลี้ยงด้วงมะพร้าวในกะละมัง แค่เดือนเศษจับขายได้กิโลฯ ละ 250-300 บาท แยกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เข้าฝักยิ่งได้ราคาดีถึง กก.ละ 1,600-2,000 บาท
นางศศิธร อัศราช กำนันหญิงตำบลป่าสัก อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าดูชาวบ้านหมู่ 6 บ้านป่าสัก ที่ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้เลี้ยงด้วงมะพร้าว หรือด้วงสาคู ที่เพาะพันธุ์เลี้ยงง่าย โตเร็ว ใช้เวลาเพียงเดือนเศษก็สามารถจับขายส่งตลาดได้แล้ว ช่วยชาวบ้านมีรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว
โดยใช้มันสำปะหลังมาแปรรูปตากแห้งผสมเป็นอาหารเลี้ยงด้วง ใส่ไว้ในกะละมังเพาะเลี้ยงด้วงสามารถลดต้นทุนการเลี้ยงได้มาก และขายได้ราคากิโลกรัมละ 250-300 บาท หากเป็นด้วงที่เข้ารังหรือเป็นตัวเงาะก่อนเป็นดักแด้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ราคาจะสูงถึงกิโลฯ ละ 1,600-2,000 บาท และเป็นที่ต้องการของตลาด
กำนันหญิงตำบลป่าสักกล่าวว่า ได้ส่งเสริมชาวบ้านและนำมาเพาะเลี้ยงด้วงมะพร้าว หรือ (ด้วงสาคู) นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ซึ่งตัวเมียจะมีงวงแหลมขึ้นมาตรงหัว ส่วนตัวผู้จะมีงวงและมีขนติดงวง ใส่กะละมังพลาสติก กะละมังละ 5 คู่ หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ด้วงมะพร้าวก็จะวางไข่ ซึ่งจะเกิดเป็นตัวหนอนตัวเล็กๆ จำนวนมาก
จากนั้นก็ทำการคัดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ออก เติมอาหารให้ด้วงมะพร้าว ชึ่งจะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 1 เดือน ลูกอ่อนด้วงมะพร้าวก็จะเจริญเติบโตเต็มวัย จนอายุประมาณ 35 วัน ก็นำออกมาขายกิโลกรัมละ 250-300 บาท สำหรับตัวอ่อนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่นำมาเข้าฝักหรือตัวเงาะเข้ารัง จะมีราคาสูงกิโลกรัมละ 1,600-2,000 บาท สามารถสร้างรายได้ให้ชาวบ้านและในชุมชนเป็นอย่างดี
สำหรับด้วงมะพร้าวหรือด้วงสาคูถือได้ว่ากำลังเป็นแมลงเศรษฐกิจของกลุ่มชาวบ้านใน อ.ภูซาง ที่หันมาเลี้ยงและส่งออกขายตามตลาดทั่วไป เป็นแมลงที่มีโปรตีนสูง เมื่อนำทอดใส่ในกระทะจะมีลักษณะสีเหลืองอ่อน แต่มีบางส่วนที่ชอบเปิบแบบสดๆ ดิบๆ ถือเป็นอีกอาชีพที่ทำมาหากินสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ชาวบ้านป่าสัก