บุรีรัมย์ - หนุ่ม นศ.ราชภัฏบุรีรัมย์สะอื้นสร้อยทองหนัก 3 บาทพร้อมเหรียญหลวงปู่เหลืองเลี่ยมทอง มูลค่ากว่า 1 แสน แม่ซื้อให้เป็นของขวัญสอบติดและตั้งใจเรียนหาย สงสัยรุ่นพี่มาพรีเซ็นต์งานที่บ้านเช่าฉกไป เผยมีคุณค่าทางจิตใจหากเอามาคืนใน 3 วันจะไม่ดำเนินคดี เบื้องต้นแจ้ง ตร.แล้วรอเรียกสอบ
วันนี้ (28 ก.พ.) นายสิทธิศักดิ์ บุดดาลี หรือน้องโจ้ อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานรูปถ่ายสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมเหรียญหลวงปู่เหลืองเลี่ยมทอง รวมมูลค่าประมาณ 104,800 บาท ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ วิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งสืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุลักขโมยสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทพร้อมเหรียญหลวงปู่เหลืองเลี่ยมทองเส้นดังกล่าว ที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญสอบติดและตั้งใจเรียน หายไปเมื่อวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ขณะที่รุ่นพี่ซึ่งเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันมาทำพรีเซ็นต์งานที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ที่ตนเองเช่าอยู่กับเพื่อน
นายสิทธิศักดิ์ หรือน้องโจ้ เล่าว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมามีรุ่นพี่ปี 4 ซึ่งเรียนสาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จำนวน 5 คน ได้มาทำพรีเซ็นต์หรือนำเสนองานก่อนจบที่บ้านเช่าที่ตนเองเช่าอยู่กัน 3 คนตั้งแต่ช่วงประมาณ 9 โมงเช้า เพราะค่อนข้างคุ้นเคยและสนิทกับรุ่นพี่กลุ่มดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเคยมาเล่นและกินข้าวด้วยกันที่บ้านเช่าที่ตนเองเช่าอยู่กับเพื่อนหลายครั้ง แต่ช่วงประมาณ 10 โมงตนรู้สึกเพลียและง่วง จึงขึ้นไปนอนบนบ้านเช่าชั้น 2 ที่เป็นห้องนอนของตนเอง โดยที่แขวนสร้อยทองเส้นดังกล่าวไว้ใกล้กับประตูทางเข้า-ออกชั้นล่าง แล้วก็เผลองีบหลับไป ซึ่งตอนนั้นเพื่อนและรุ่นน้องที่เช่าอยู่ด้วยกันประจำไม่ได้อยู่ที่บ้าน
กระทั่งประมาณบ่าย 2 ตนรู้สึกตัวตื่นก็รีบลงมาดูสร้อยทองที่แขวนเอาไว้แต่ไม่เจอแล้ว ซึ่งตอนนั้นรุ่นพี่ที่มาทำพรีเซ็นต์งานก็ยังอยู่ 4 คน ยืนยันว่าไม่ได้เอาไป แต่รุ่นพี่อีก 1 คนไม่อยู่ที่บ้านเช่าแล้ว ตนจึงทักไปถามว่าเห็นสร้อยทองของตนหรือไม่ รุ่นพี่คนนั้นกลับปฏิเสธว่าไม่เห็นและไม่ได้เอาไป แต่รุ่นพี่อีก 4 คนที่ยังอยู่ที่บ้านเช่าบอกว่าเห็นรุ่นพี่คนดังกล่าวเดินเข้า-ออกบ่อยก่อนจะหายไป ทั้งที่คนอื่นยังอยู่ทำพรีเซ็นต์งานต่อ จากพฤติกรรมทำให้ตนเองสงสัยรุ่นพี่คนดังกล่าว เพราะตนอยู่บ้านเช่าหลังนี้มากว่า 2 ปีเคยแขวนสร้อยทองไว้ตรงนี้บ่อยแต่ไม่เคยหาย เพราะเพื่อนที่เช่าอยู่ด้วยกันก็จะรู้และก็แขวนเอาไว้เหมือนกัน
จึงอยากจะวอนให้รุ่นพี่คนดังกล่าวเอาสร้อยทองมาคืน เพราะสร้อยเส้นนี้มีคุณค่าทางใจมากกว่าราคา เพราะเป็นสร้อยที่แม่ซื้อให้ตอนที่สอบติด ม.ราชภัฏฯ ตอนแรกหนัก 2 บาท และพอตนตั้งใจเรียนจนถึงปี 3 แม่เพิ่มให้อีก 1 เป็นน้ำหนัก 3 บาทพร้อมเหรียญหลวงปู่เหลืองวัดกระดึงทองเลี่ยมทองด้วย เบื้องต้นได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และให้โอกาสคนที่เอาไปหากเอามาคืนภายใน 3 วันจะไม่เอาเรื่อง แต่หากไม่เอามาคืนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยอยากให้ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวคนขโมย
ขณะที่ นายชาญณรงค์ จันทร์ประโคน เพื่อนที่เช่าบ้านอยู่ด้วยกันและเรียนอยู่ห้องเดียวกัน บอกว่า อยู่บ้านเช่าหลังนี้มา 2 ปีทั้งตนและเพื่อนก็แขวนของมีค่าไว้ตรงนี้ประจำไม่เคยหาย เสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ทั้งที่เคยมาเล่นด้วยกันกินข้าวหม้อเดียวกัน คิดว่าคนที่เอาสร้อยไปก็รู้ตัวเองอยู่แล้วอยากให้เอามาคืนเพื่อน เพราะเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อเพื่อนมาก