xs
xsm
sm
md
lg

สสส. ชู “โคราชเมืองน่าอยู่ : คนเข้มแข็ง ท้องถิ่นแข็งแรง” เดินหน้า “ตำบลสุขภาวะ” ขับเคลื่อนเตรียมพร้อมชุมชนรับสังคมสูงอายุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สสส. กล่าวในการลงพื้นที่ “โคราชเมืองน่าอยู่ : คนเข้มแข็ง ท้องถิ่นแข็งแรง” และเยี่ยมชมกิจการชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด ที่บ้านห้วยยาง หมู่ 7 ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีกลุ่มผลิตข้าวโป่งจนได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงระดับประเทศว่า ตำบลสุขภาวะเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ซึ่งสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. และเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ร่วมสร้าง “ตำบลสุขภาวะ” มากว่า 10 ปี ในปี 2565 นี้จะมีการสรุปบทเรียนการทำงานในช่วงที่ผ่านมาทั้งหมด 13 ประเด็น ทั้งประเด็นการพัฒนาปัญหาพื้นฐานและประเด็นตอบสนองยุทธศาสตร์ สสส.ที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ โดยตลอดระยะเวลาที่ สสส.ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ ได้สร้างรูปแบบและแนวทางการทำงานที่สนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมในการทำงาน โดยเฉพาะความร่วมมือกันระหว่าง 4 องค์กรหลัก ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท้องที่ (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) ภาคประชาชนและหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของตำบลในเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ส่งผลให้ท้องถิ่นแต่ละแห่งสามารถสร้างนวัตกรรมการจัดการใหม่ๆ ได้เกือบทุกพื้นที่

ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สสส.
“ก้าวต่อไปของเรา คือการทำงานเจาะลึกทีละประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้สูงอายุ อุบัติเหตุ หรือเรื่องปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อเข้าไปให้ถึงปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง ข้อค้นพบสำคัญประการหนึ่งหลังจาก สสส. ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ ท้องถิ่นมีศักยภาพสูงมาก แทบจะไม่มีข้อจำกัดเลย ดังนั้นคนที่อยู่ในระดับนโยบายควรจะไว้ใจและให้ความเชื่อมั่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้แล้ว” ดร.ประกาศิต กล่าว

รศ.ดร.ขนิษฐา นันทบุตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (ศวช.) คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รศ.ดร.ขนิษฐา นันทบุตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (ศวช.) คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ความโดดเด่นของตำบลหินดาด คือการให้ความสำคัญกับกลุ่มอาชีพต่างๆ แล้วสร้างกองทุนต่างๆ เข้าไปหนุนเสริม ทำให้คนยากลำบาก คนด้อยโอกาสได้ประโยชน์จากแนวทางนี้ด้วย อย่างเช่นการส่งเสริมอาชีพให้ผู้สูงอายุ ทาง อบต. ก็ทำกิจกรรมขับเคลื่อน 5 อ. คือ อาหาร ออม อาสาสร้างเมือง ออกกำลังกาย และอาชีพและ 5 ก. คือ กลไกชุมชน ได้แก่ การป้องกันและลดอุบัติเหตุ การพัฒนาโรงเรียนผู้สูงอายุ การพัฒนาชมรมผู้สูงอายุ การดูแลต่อเนื่อง และกายอุปกรณ์ ควบคู่ไปด้วย ผู้สูงอายุก็ได้ประโยชน์ แม้จะช่วยเสริมให้มีรายได้เพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถอยู่ได้ ช่วยลดรายจ่ายได้บ้าง ขณะเดียวกัน อบต.หินดาด ก็มีบทบาทในการส่งเสริมการตลาดด้วย อย่างเช่น ข้าวโป่งของบ้านห้วยยาง ก็สนับสนุนให้ขายทางออนไลน์ ซึ่งความโดดเด่นเหล่านี้เกิดจากความร่วมมือของ 4 องค์กรหลักชัดเจนมากแสดงว่าที่หินดาดนี้ มีการทำงานแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

นายพิบูลย์ แสงสุระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด
นายพิบูลย์ แสงสุระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด กล่าวว่า อบต. หินดาดมีนโยบายในการส่งเสริมอาชีพและเศรษฐกิจชุมชน โดยได้ประสานกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา (พมจ.) ส่งเสริมอาชีพให้กับคนพิการและผู้สูงอายุ จนรวมกลุ่มกันได้หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มเพาะเห็ดนางฟ้า กลุ่มทอผ้า กลุ่มผลิตดอกไม้จันทน์ กลุ่มจักสาน เป็นต้น ส่วนการส่งเสริมอาชีพระดับชุมชนนั้น ทาง อบต. หินดาดได้ประสานขอความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี ทั้งการผลิตและบรรจุภัณฑ์ จนสามารถยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ให้เป็นที่ยอมรับของตลาด ส่งผลให้สมาชิกในกลุ่มผู้ผลิตมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันข้าวโป่งบ้านห้วยยาง ยังช่วยให้เกษตรกรที่ผลิตวัตถุดิบให้ มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย กลุ่มผู้ผลิตจะรับซื้อข้าวอินทรีย์ กล้วย มันจากเกษตรกรในพื้นที่ ทุกกลุ่มได้รับประโยชน์จากการผลิตข้าวโป่ง ทำให้เศรษฐกิจการเงินหมุนเวียนในชุมชนอย่างทั่วถึง

“ขณะนี้ชาวหินดาดทั้งหมด 15 หมู่บ้านในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.หินดาดมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 40,000 บาทต่อคนต่อปี หรือ 308,587.56 บาทต่อครัวเรือน สูงกว่าเส้นแบ่งความยากจนเล็กน้อย ซึ่งทาง อบต.หินดาด ก็จะพยายามต่อไปในการส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ที่มั่นคง โดยเฉพาะเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร นอกจากนี้เรายังมีกองทุนในพื้นที่ของเราอีกหลายกองทุนที่จะมาช่วยหนุนเสริมสร้างความอยู่ดีกินดีให้พี่น้องของเรา” นายก อบต.หินดาด กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น