เชียงใหม่ - เชียงใหม่สั่งเฝ้าระวังใกล้ชิดต่อเนื่องโควิด-19 คลัสเตอร์กลุ่มโรงเรียนและวิทยาลัย 2 คลัสเตอร์ กับกลุ่มร้านอาหารเครื่องดื่ม 5 คลัสเตอร์ หลังพบติดเชื้อลามไม่หยุด ขณะเดียวกันผุดเพิ่มอีกคลัสเตอร์ใหม่ “วัดเจดีย์หลวง” ด้านการรักษาผู้ติดเชื้อเน้นระบบ Home Isolation เป็นหลัก เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงให้กักตัวสังเกตอาการ
ช่วงค่ำวันนี้ (10 ก.พ. 65) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่รายงานว่าวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 261 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 8 ราย ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 5 ราย กำแพงเพชร ลำพูน และเชียงราย จังหวัดละ 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก 253 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยในขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย คลัสเตอร์กลุ่มโรงเรียน 2 คลัสเตอร์ ได้แก่ โรงเรียนเชียงใหม่มัธยม ฝั่งประถมศึกษา ตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 3 ราย ยอดรวม 17 ราย และวิทยาลัยเทคนิคสารภี ชั้น ปวส.1 แผนกยานยนต์ ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี ตรวจ ATK พบเพิ่ม 1 ราย ยอดรวม 4 ราย
ด้านคลัสเตอร์กลุ่มร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ ร้านเลอเนิร์ฟ คาเฟ่ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 3 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเข้าไปใช้บริการระหว่างวันที่ 1-6 กุมภาพันธ์ ยอดรวม 4 ราย, ร้านบางขวาง ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 5 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเข้าไปใช้บริการระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ ยอดรวม 11 ราย, ร้านพอใจบาร์ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 2 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเข้าไปใช้บริการวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ยอดรวม 15 ราย, ร้านฮอมบาร์ ตรวจ RT-PCR พบใหม่ 1 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเข้าไปใช้บริการวันที่ 29 มกราคม ยอดรวม 17 ราย และร้านฉลุยคาเฟ่ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเข้าไปใช้บริการวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ยอดรวม 7 ราย
นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์อื่นๆ อีก 5 คลัสเตอร์ เป็นคลัสเตอร์ใหม่ทั้งหมด ประกอบด้วย คลัสเตอร์สถานสงเคราะห์บ้านเด็กชาย ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม ตรวจ ATK พบเพิ่ม 14 ราย, คลัสเตอร์สำนักงานสรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 1 ราย ยอดรวม 4 ราย, คลัสเตอร์คลังสินค้า บริษัท ซีพีดีชีทบอร์ด จำกัด ตำบลหนองแฝก อำเภอสารภี ตรวจ ATK พบเพิ่ม 4 ราย ยอดรวม 11 ราย, คลัสเตอร์วัดเจดีย์หลวง ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 3 ราย และคลัสเตอร์แคมป์ช่างสอน หมู่ 8 ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 4 ราย
ส่วนการระบาดในครอบครัวเพิ่มจำนวน 13 ราย จากหลายครอบครัวในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสันกำแพง อำเภอสันทราย และอำเภอหางดง ส่วนผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสเชื้อรายก่อนหน้าพบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้พบมากถึง 141 ราย และยังมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวน และเชื่อมโยงคลัสเตอร์อีก 39 ราย
ขณะเดียวกันระบุว่า ในช่วงนี้พบว่าผู้ติดเชื้อจังหวัดเชียงใหม่เป็นสายพันธุ์โอมิครอนมากขึ้น ทำให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย รวมทั้งประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไปจำนวนมากจึงทำให้มีภูมิคุ้มกันสูง ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่จะเน้นการรักษาในระบบ HI หรือ Home Isolation หรือการแยกกักตัวที่บ้าน ส่วนกลุ่มเสี่ยงจะต้องรู้ตัวเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดนิยามของผู้สัมผัสใกล้ชิด คือผู้ที่อยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อในระยะ 2 เมตร เป็นเวลานานกว่า 5 นาที หรืออยู่ในพื้นที่ปิดนานกว่า 30 นาที เช่น ในรถยนต์โดยสารติดแอร์ หรือห้องติดแอร์ เน้นย้ำให้กลุ่มสัมผัสใกล้ชิด สังเกตอาการ 10 วัน และลดการเดินทางไปในที่ชุมชน
โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงที่ไม่ได้สวมหน้ากาก ให้กักตัว 7 วัน และสังเกตอาการ 3 วัน รวมทั้งหมด 10 วัน และตรวจ ATK วันที่ 5 และ 10 ของการสัมผัส หรือตรวจเพิ่มเมื่อมีอาการ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ หมายถึง ผู้ที่สวมหน้ากากตลอดเวลาขณะใกล้ชิด ให้สังเกตอาการ 10 วัน โดยไม่ต้องกักตัว ส่วนการตรวจหาเชื้อ ตรวจเฉพาะเมื่อมีอาการ หากสังเกตอาการครบ 10 วัน แล้วไม่มีอาการ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องตรวจ ATK ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ด้านข้อมูลผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 76 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดสมอง และโรคอ้วน ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัวและไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน โดยวันที่ 14 ม.ค. 65 มีคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด จึงตรวจ ATK พบว่าผลเป็นบวก วันที่ 17 ม.ค. 65 เริ่มมีอาการไข้ ไอ ตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด รับไว้รักษาที่โรงพยาบาลหางดง วันที่ 22 ม.ค. 65 เริ่มเหนื่อยมากขึ้นและไอเป็นเลือด ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ วันที่ 8 ก.พ. 65 ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิต