xs
xsm
sm
md
lg

โควิด-19 คลัสเตอร์ รร.-ร้านอาหารเชียงใหม่ยังน่าห่วง-เร่งชวนคนฉีดวัคซีนเข็ม 3 ป้องกันติดเชื้อและลดโอกาสตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - เชียงใหม่พบโควิด-19 กลุ่มคลัสเตอร์โรงเรียนและร้านอาหารเครื่องดื่มยังแพร่เชื้อไม่หยุด เร่งเชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพิ่มภูมิคุ้มกันและลดความรุนแรง แม้ช่วยป้องกันติดเชื้อได้ 68% แต่ยังลดโอกาสเสียชีวิตได้มาก หลังพบการฉีดแค่ 2 เข็มไม่แสดงผลในการป้องกัน


ช่วงค่ำวันนี้ (9 ก.พ. 65) นายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 251 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างพื้นที่ 8 ราย ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 243 ราย และผู้ติดเชื้อเข้าข่ายอีก 1,489 ราย ซึ่ง 5 อำเภอที่พบผู้ติดเชื้อมาก ได้แก่ อำเภอสันทราย สารภี สันกำแพง หางดง แม่ริม และดอยสะเก็ด โดยขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ 3 คลัสเตอร์ใหญ่ ประกอบด้วย คลัสเตอร์กลุ่มโรงเรียน 14 ราย ในอำเภอจอมทอง อำเภอหางดง อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม และอำเภอสันทราย, คลัสเตอร์กลุ่มร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 16 ราย และกลุ่มคลัสเตอร์อื่นๆ ที่มีการติดตามอีก 53 ราย ขณะที่การระบาดในครอบครัว พบเพิ่ม 6 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้าอีก 155 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเชื่อมโยงคลัสเตอร์อีก 63 ราย

ทั้งนี้ จากผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนการได้รับวัคซีนในกลุ่มผู้ติดเชื้อ และผู้ที่ไม่ติดเชื้อ ในกลุ่มที่เข้ารับการตรวจเชิงรุกของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันติดเชื้อของการฉีดวัคซีน 2 เข็มในเดือนมกราคมไม่แสดงผลในการป้องกันการติดเชื้อ แตกต่างจากช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 ซึ่งพบการระบาดของสายพันธุ์เดลตาเป็นหลัก ที่ป้องกันได้ที่ร้อยละ 71 อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นวัคซีนเข็มที่ 3 พบผลการป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 68 ซึ่งยังมีประสิทธิภาพในการป้องกัน แม้จะลดลงจากช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 93 ในส่วนของการป้องกันการเสียชีวิตยังได้ผลดี แม้จะลดลงจากร้อยละ 97 มาอยู่ที่ร้อยละ 89 ในผู้ที่ฉีดวัคซีนสองเข็ม และลดลงจากร้อยละ 99 มาที่ร้อยละ 96 ในผู้ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยวัคซีนเข็มที่ 3

ดังนั้น ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครบระยะเวลาแล้วเข้ารับการกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในการป้องกันการติดเชื้อ และลดความรุนแรงหากติดเชื้อ และขอเน้นย้ำแนวทางการควบคุมโควิด-19 ระลอกเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 ตามแนวทางกรมควบคุมโรค โดยมีประเด็นมุ่งเน้น ได้แก่ การสอบสวนค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงให้ครอบคลุมตามนิยามที่กำหนดใหม่ คือ หากสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 โดยตัวเองไม่สวมหน้ากากอนามัย ในระยะไม่เกิน 2 เมตร นานกว่า 5 นาที หรือสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 โดยตัวเองไม่สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิด หรือพื้นที่ปรับอากาศ นานกว่า 30 นาที ให้กักตัวกลุ่มเสี่ยงสูง อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการแพร่เชื้อด้วยการกักตัวที่บ้าน 7 วัน และสังเกตอาการต่ออีก 3 วัน ส่วนการตรวจ ATK เน้นเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูง โดยตรวจวันที่ 5 และ 10 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ และเมื่อมีอาการ และไม่เน้นตรวจ ATK ทุกคนในองค์กร แนะนำให้สังเกตอาการและเคร่งครัดในมาตรการป้องกัน DMHTT








กำลังโหลดความคิดเห็น