เชียงใหม่ - โควิด-19 เชียงใหม่ติดเชื้อเพิ่ม 148 ราย ไม่นับรวมผู้มีผลตรวจ ATK เป็นบวกอีก 566 ราย เน้นย้ำ จนท.โรงพยาบาลเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน โดยยึดหลัก Social Distancing หลังพบการระบาดในสถานพยาบาลหลายแห่ง ส่วนสถานศึกษาที่ได้รับอนุญาตให้เปิดเรียน On Site ขอให้ปฏิบัติตาม Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด
ช่วงเย็นวันนี้ (1 ก.พ. 65) นายแพทย์ ธนชล วงศ์หิรัญเดชา นายแพทย์ชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 148 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ 4 ราย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 3 ราย แม่ฮ่องสอน 1 ราย ส่วนอีก 144 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่และยังคงระบาดอยู่ 8 ราย จาก 3 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย คลัสเตอร์หอผู้ป่วยเด็ก โรงพยาบาลนครพิงค์ 3 ราย, หอศัลยกรรมหญิง ชั้น 7 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 3 ราย และคลัสเตอร์แผนกผู้ป่วยใน ชั้น 5 โรงพยาบาลเทพปัญญา 2 ราย
ส่วนคลัสเตอร์ที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย จากคลัสเตอร์โครงการหลวงดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ขณะที่การติดเชื้อในครอบครัวพบมากขึ้นถึง 12 ราย จากครอบครัวหมู่ 8 ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง 4 ราย, ครอบครัวหมู่ 1 ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ 3 ราย, ครอบครัวงานศพ หมู่ 4 ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง 3 ราย และครอบครัวหมู่ 5 ตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง 2 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและเชื่อมโยงคลัสเตอร์ต่างๆ อีก 38 ราย และผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 85 ราย
สำหรับการระบาดในวันนี้เป็นการระบาดในสถานพยาบาลหลายแห่ง แม้จะมีมาตรการ Covid Free Setting ในสถานพยาบาลแล้วก็ตาม โดยการระบาดมีทั้งการระบาดในผู้ป่วยที่นอนในหอผู้ป่วยเดียวกันและที่เป็นเจ้าหน้าที่ ดังนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จึงขอให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน โดยยึดหลัก Social Distancing และขอให้ประชาชนยึดหลักการป้องกันแบบครอบจักรวาลในทุกสถานที่ และหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือทำกิจกรรมใกล้ชิดกับคนอื่นๆ ในที่สาธารณะโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การดำเนินการตรวจ ATK วันนี้ (1 ก.พ. 65) จำนวน 4,293 ราย พบผู้มีผลบวก 566 ราย โดยจากการตรวจสะสมทั้งสิ้น 224,683 ราย พบผู้มีผลบวกสะสมแล้ว 18,197 ราย ขณะที่ผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวนั้น ประกอบด้วย โรงพยาบาลรัฐ 200 ราย, โรงพยาบาลเอกชน 655 ราย, โรงพยาบาลต่างจังหวัด 4 ราย, Community Isolation (CI) 1,154 ราย และ Home Isolation (HI) 2,519 ราย