xs
xsm
sm
md
lg

สั่งจับตาใกล้ชิดโควิด-19 คลัสเตอร์โรงเรียน-ร้านอาหารขายเหล้าเชียงใหม่ หลังพบยอดติดเชื้อยังลามไม่หยุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - เชียงใหม่จับตาเฝ้าระวังใกล้ชิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในโรงเรียนสถานศึกษา และร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นไม่หยุด พร้อมเน้นย้ำประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ขณะที่ผู้เสียชีวิต 3 รายล่าสุดเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว


ช่วงเย็นวันนี้ (8 ก.พ. 65) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ประจำวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 252 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 11 ราย ได้แก่ ระยอง 4 ราย เชียงราย 3 ราย กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ลำปาง และสงขลา จังหวัดละ 1 ราย ส่วนอีก 241 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยในขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จำนวน 3 กลุ่มคลัสเตอร์ ประกอบด้วย คลัสเตอร์กลุ่มโรงเรียน คือโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม ตรวจ ATK พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 16 ราย ยอดรวมทั้งหมด 269 ราย, โรงเรียนวชิรวิทย์ ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตรวจ RT-PCR และ ATK พบรายใหม่ 2 ราย ยอดรวมทั้งหมด 22 ราย, โรงเรียนเชียงใหม่มัธยมฝั่งประถมศึกษา ตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง ตรวจ RT-PCR พบรายใหม่ 9 ราย ยอดรวมทั้งหมด 14 ราย, โรงเรียนต้นกล้า ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย ตรวจ RT-PCR และ ATK พบใหม่ 8 ราย ยอดรวมทั้งหมด 14 ราย, โรงเรียนจอมทอง อ.จอมทอง ตรวจ ATK พบรายใหม่ 4 ราย ยอดรวมทั้งหมด 9 ราย จึงขอให้ทุกโรงเรียนที่เปิดเรียน On Site เคร่งครัดในมาตรการป้องกันโรคอย่างเต็มที่ และต้องปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ กรณีพบผู้ติดเชื้อในสถานศึกษา

ด้านคลัสเตอร์กลุ่มร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม พบทั้งหมด 3 ร้าน ประกอบด้วย ร้านเลอเนิร์ฟ คาเฟ่ ตรวจ RT-PCR พบรายใหม่ 3 ราย ยอดรวมทั้งหมด 8 ราย, ร้านฮอมบาร์ ตรวจ RT-PCR พบรายใหม่ 1 ราย ยอดรวมทั้งหมด 16 ราย, ร้านฉลุย ตรวจ RT-PCR และ ATK พบใหม่ 2 ราย ยอดรวมทั้งหมด 3 ราย และคลัสเตอร์อื่นๆ ประกอบด้วย บริษัท Toyota นครพิงค์ แม่เหียะ ตรวจ RT-PCR พบเพิ่ม 2 ราย ยอดรวมทั้งหมด 7 ราย และงานศพ หมู่ 8 ตำบลสบเปิง อำเภอหางดง ตรวจ RT-PCR และ ATK พบเพิ่ม 10 ราย ยอดรวม 16 ราย นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์การระบาดในครอบครัวเพิ่มจำนวน 4 ราย จากทั้งหมด 3 ครอบครัว ส่วนผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสเชื้อรายก่อนหน้าพบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้พบมากถึง 157 ราย และยังมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวน และเชื่อมโยงคลัสเตอร์อีก 50 ราย


สำหรับข้อมูลผู้เสียชีวิต 3 รายวันนี้นั้น รายแรกเป็นชายไทย อายุ 67 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และไตวาย ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม เมื่อ 21 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยวันที่ 2 ก.พ. 65 เริ่มมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย และนำส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 65 ต่อมาพบระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตในวันเดียวกัน, รายที่สองเป็นชายไทย อายุ 67 ปี มีโรคประจำตัว คือ โรคพิษสุราเรื้อรัง ได้รับการฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย รับประทานได้น้อย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสารภี ต่อมาตรวจ RT-PCR พบยืนยันติดเชื้อโควิด จึงได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และเสียชีวิตเพราะระบบหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 65 และรายสุดท้าย เป็นหญิงไทย อายุ 71 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง และไตวาย ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดมาก่อน โดยวันที่ 26 ธ.ค. 64 เข้ารับการฟอกไตที่คลินิกเอกชน ตรวจ ATK ก่อนฟอกไตผลเป็นบวก จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสันทราย ตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด จึงส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 65

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดนิยามของผู้สัมผัสใกล้ชิด คือ ผู้ที่อยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อในระยะ 2 เมตร เป็นเวลานานกว่า 5 นาที หรืออยู่ในพื้นที่ปิดนานกว่า 30 นาที เช่น ในรถยนต์โดยสารติดแอร์ หรือห้องติดแอร์ เน้นย้ำให้กลุ่มสัมผัสใกล้ชิดสังเกตอาการ 10 วัน และลดการเดินทางไปในที่ชุมชน โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงที่ไม่ได้สวมหน้ากาก ให้กักตัว 7 วัน และสังเกตอาการ 3 วัน รวมทั้งหมด 10 วัน และตรวจ ATK วันที่ 5 และ 10 ของการสัมผัส หรือตรวจเพิ่มเมื่อมีอาการ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ หมายถึงผู้ที่สวมหน้ากากตลอดเวลาขณะใกล้ชิด ให้สังเกตอาการ 10 วัน โดยไม่ต้องกักตัว ส่วนการตรวจหาเชื้อ ตรวจเฉพาะเมื่อมีอาการ หากสังเกตอาการครบ 10 วัน แล้วไม่มีอาการ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องตรวจ ATK ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด








กำลังโหลดความคิดเห็น