ระยอง - ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง ยืนยันพบน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลซ้ำจุดเดิมอีก 5,000 ลิตร ชี้เป็นน้ำมันค้างท่อหลัง จนท.ยกท่ออ่อนจุดรั่วเดิมขึ้นตรวจสอบ ล่าสุด ระดมเรือ 9 ลำ พร้อมเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินโปรยสารเคมีสลายคราบน้ำมันป้องกันพัดเข้าฝั่งแล้ว
จากกรณีบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้ออกหนังสือแจ้งเหตุน้ำมันรั่วไหลเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (10 ก.พ.) และบริษัทฯ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1 (น้ำมันรั่วไหลขนาดเล็กไม่เกิน 20 ตัน) โดยพบฟิล์มน้ำมันดิบ (สีเงิน) บริเวณทิศเหนือห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบหุ่นเดียวกลางทะเล หรือขนถ่ายนํ้ามันในทะเล (SPM) ประมาณ 3ไมล์
ขณะที่ทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังระงับเหตุและควบคุมสถานการณ์อยู่ ณ ขณะนี้ และบริษัทฯ ได้ขอกำลังทางเรือ และอากาศยานจากทัพเรือภาค 3 เพื่อให้การระงับเหตุเป็นไปอย่างรวดเร็วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ.ระยอง ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปริมาณการรั่วไหลของน้ำมัน บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC พร้อมด้วย นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้เปิดแถลงข่าวด่วนที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง หมู่บ้านสบาย สบาย หาดแม่รำพึง อ.เมือง จ.ระยอง
โดยยืนยันเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเลซ้ำจุดเดิมว่า มีสาเหตุจากการที่ SPRC ได้ยกท่ออ่อนขนถ่ายน้ำมันบริเวณทุ่นลอยขนถ่ายน้ำมันกลางทะเล จุดที่พบการรั่วไหลก่อนหน้าขึ้นมาตรวจสอบ แต่พบว่ามีน้ำมันค้างท่ออยู่จำนวน 5,000 ลิตร จนทำให้เกิดรั่วไหลลงทะเลอีก
“แต่ยังเป็นน้ำมันที่ไม่หนาแน่นเหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยจุดที่พบคราบน้ำมันอยู่ห่างทุ่นลอยขนถ่ายน้ำมันประมาณ 3 ไมล์ทะเล และอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 20 กม.เบื้องต้น บริษัทฯ ได้ระดมเรือ จำนวน 9 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เข้าควบคุมสถานการณ์ด้วยการโปรยสารเคมีสลายคราบน้ำมันดังกล่าวอย่างเร่งด่วนแล้ว”
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากสถานการณ์ที่เลวร้ายของการรั่วไหลได้ผ่านไปแล้ว และไม่น่าจะพัดเข้าฝั่งได้
ขณะที่การเยียวยาผลกระทบจากกรณีน้ำมันรั่วครั้งแรก มีรายงานว่าตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.-9 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ได้รับผลกระทบยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อขอรับการเยียวยาแล้วจำนวน 6,268 เรื่อง ซึ่ง จ.ระยอง จะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนที่บ้านสบาย สบายรีสอร์ท และศูนย์ดำรงธรรมของเทศบาล รวมทั้ง อบต.อีก 14 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลตั้งแต่ อ.บ้านฉาง ถึง อ.แกลง โดยกลุ่มที่จะได้รับการเยียวยาประกอบด้วย กลุ่มประมง กลุ่มท่องเที่ยว ที่พักรีสอร์ต ร้านอาหาร กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มอาชีพสาขาต่างๆ