ราชบุรี - ผู้จัดการคาเฟ่เปิดใหม่ราชบุรีขอโทษลูกค้าสาวที่โดนปรับ 500 บาท หลังนั่งเก้าอี้ของร้านหักทั้งที่พนักงานบอกว่านั่งได้ พร้อมคืนเงินให้ พ้อสื่อนำเสนอข่าวแค่ด้านเดียว ที่จริงตัวที่หักเป็นโต๊ะปิกนิกไม่ใช่เก้าอี้ และลูกค้าเดินไปหยิบเอง พนักงานไม่ได้ดู
วันนี้ (8 ก.พ.) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ar Warchiraphon ได้โพสต์ระบายถึงเหตุการณ์ที่ตนเองได้ไปคาเฟ่แห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี โดยมีใจความว่า รีวิวคาเฟ่ วันนี้ขอเสนอคำว่า ห่วยแตกเสียค่าเก้าอี้ 500 เป็นค่าเสียหายให้กับร้านก่อนจะหยิบไปนั่งเราถามพนักงานแล้วว่าเก้าอี้นี้สามารถหยิบไปนั่งได้ใช่ไหมค่ะ พนักงาน :ได้ค่ะ พอลงนั่งเท่านั้นแหล่ะ ก้นกระแทกลงพื้น ถามว่าอายไหม ตอบ มาก!!!! หลังจากนั้นก็เรียกพนักงานบอกน้องเก้าอี้หัก แล้วถามอีกว่ามันเป็นเก้าอี้นั่งใช่ไหม พนักงานตอบ ใช่ค่ะ แล้วลูกค้าก็นั่งหักไปหลายตัวแล้วเหมือนกัน พนักงานมาถึงถ่ายรูป แล้วบอกรอผู้จัดการมาเคลียสักครู่
เราก็รอ.... ผู้จัดการมาคุย บอกเก้าอี้มีค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าต้องจ่าย 500 บาท เราก็ถามทำไมไม่ติดป้ายห้ามนั่ง
ผู้จัดการตอบ!!! ติดค่ะลูกค้าแต่ติดไม่ทุกตัว what???
คือก่อนนั่งถามพนักงานในร้านแล้วนะ แต่ก็จ่ายเพราะตอนนั้นคือ งงตกใจ ทำอะไรไม่ถูก แล้วก็จ่ายให้จบๆ ไป #at คาเฟ่เปิดใหม่ริมน้ำ แถวคุ้งกระถิน ขอพระเจ้าลงโทษอย่างหนัก
หลังจากที่มีการโพสต์ไปมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และมียอดแชร์ไปกว่า 1 พันครั้ง ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้เสียหาย ทราบชื่อคือ น.ส.วชิราภรณ์ ทรัพย์อร่าม อายุ 32 ปี อาชีพแม่ค้า เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร
น.ส.วชิราภรณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องก็เคยไปที่คาเฟ่นี้กับเพื่อนมาแล้ว 3 ครั้ง ล่าสุดวันนั้นได้ชวนเพื่อนไปถ่ายรูปอีก ประมาณ 09.30 น.ได้เข้าไปสั่งกาแฟ และไปถ่ายรูปตามปกติ แล้วจะมีส่วนของด้านล่าง ทางพนักงานยังไม่ได้วางเก้าอี้ ตนเองจึงได้ขอพนักงานที่อยู่ด้านล่างว่าขอเก้าอี้ตัวที่เกิดเหตุนี้ไปนั่งถ่ายรูปได้ไหม น้องบอกว่าได้ค่ะ ซึ่งในตอนนั้นถ้านั่งไม่ได้ทำไมพนักงานไม่บอก เราก็เลยได้หยิบไปนั่ง เพราะพนักงานบอกว่านั่งได้ และไม่ได้มีป้ายติดไว้ว่าห้ามนั่ง พอกางลักษณะเหมือนเก้าอี้นั่งตัวเล็กๆ พอนั่งลงเก้าอี้ก็หัก ก้นกระแทกพื้นเสียงดัง และมีลูกค้าที่อยู่ในร้านมองลงมา เรารู้สึกอาย ความเจ็บไม่เท่าไหร่แต่อายมากกว่า
แต่ทั้งนี้ยังไม่รู้สึกไม่ดีหรืออะไร หลังจากนั้นได้เรียกพนักงานที่เคยถาม ก่อนจะเดินมาดูพร้อมทั้งถ่ายรูป เราถามอีกว่าเก้าอี้ตัวนี้นั่งได้จริงๆ ใช่ไหม ทางพนักงานบอกอีกว่านั่งได้ มีลูกค้านั่งหักไปหลายคนแล้ว เราเลยไม่ได้ว่าอะไร และไม่ใช่คนแรกที่โดน หลังจากนั้นเปลี่ยนเก้าอี้ไปนั่งแล้วถ่ายรูปใหม่ จากนั้นเตรียมที่จะไปถ่ายหลังร้านก็มีพนักงานเดินมาบอกว่า ให้รอผู้จัดการมาเคลียร์เรื่องเก้าอี้สักครู่
เมื่อผู้จัดการมาก็พูดกับตนว่า เก้าอี้ที่เสียหายมีค่าที่ลูกค้าต้องชดใช้ 500 บาท เราตกใจพร้อมบอกว่าได้ถามพนักงานแล้วว่านั่งได้ไหมก็ยังยืนยันว่านั่งได้ ทางผู้จัดการได้แค่ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เหมือนจะให้จ่ายเงินอย่างเดียว เราพยายามพูดแต่ทางผู้จัดการได้แต่นิ่งๆ เราเลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เลยจ่ายเงินไปให้จบๆ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร และถ้าเสียก็ไม่น่าจะถึง 500 บาท เพื่อนบอกว่าจ่ายให้มันจบๆ ไป ในระหว่างที่กำลังโอนเงินได้ถามผู้จัดการอีกว่าทำไมเก้าอี้ที่นั่งไม่ได้ไม่ติดป้ายว่าห้ามนั่ง เขาบอกว่าติดค่ะ แต่ติดไม่ทุกตัว และเราจะลงไปดูป้ายว่าติดหรือไม่ แต่เพื่อนบอกว่าไม่ต้องไป ก็เลยไม่ได้ไป
น.ส.วชิราภรณ์ เล่าอีกว่า หลังจากจ่ายเงินเสร็จผู้จัดการบอกขอบคุณค่ะ เราเลยตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวจะกลับไปรีวิว" ซึ่งทางผู้จัดการรู้ว่าเราจะทำรีวิว ก็เลยเดินออกจากร้านไปด้วยความรู้สึกว่าไม่ใช่ แล้วทำไมเราต้องจ่าย ส่วนที่กลับมารีวิวคือต้องการอยากจะบอกว่าถ้าคนอื่นที่ไปแล้วถ้าจะไปหยิบเก้าอี้มานั่งแล้วไม่ต้องถามพนักงาน รอถามผู้จัดการคนเดียว เพราะถ้าพนักงานบอกเราว่านั่งได้แต่กลับมาคิดเงินเรา มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะนั่งเก้าอี้เราต้องรอถามผู้จัดการใช่ไหม แล้วถ้าไม่ได้ติดป้ายเราจะรู้ได้ไงว่าเก้าอี้มันมั่นคงหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ไม่น่าเอามาใช้บริการ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ใช่เราคนเดียวที่ไม่รู้ว่ามันไม่ใช่เก้าอี้นั่ง เลยจะโพสต์เป็นอุทาหรณ์ ให้เพื่อนในเฟซจะได้ระวัง
หลังจากที่โพสต์ไปแล้วมีคนมาคอมเมนต์ว่าผู้จัดการเอาเงินเข้ากระเป๋าเองหรือเปล่า ซึ่งทางผู้จัดการมาตอบว่าไม่ได้เอาเงินเข้ากระเป๋าจริงๆ ซึ่งทางเรารอผู้จัดการมาขอโทษ ถ้าผู้จัดการมาขอโทษวันนั้น เราจะลบโพสต์ให้เลย ตอนนั้นเราไม่ได้คิดที่อยากจะได้เงินคืน เราอยากได้ความรู้สึกที่เสียไปคืน เพราะเรารู้สึกไม่ดี มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินมันเป็นเรื่องของความรู้สึก หลังจากที่มีกระแสและมียอดแชร์ออกไปจำนวนมาก ทางผู้จัดการได้มีการทักข้อความมาขอโทษ พร้อมทั้งขอเลขบัญชี เพื่อที่จะโอนเงินคืน ทางเราตอบกลับไปว่าเรารอตั้งแต่วันที่ผู้จัดการเข้ามาคอมเมนต์วันแรกๆ แล้ว แต่ทางผู้จัดการไม่ทักเข้ามาขอโทษใดๆ แล้วตอนนี้มีนักข่าวเข้ามาขอสัมภาษณ์ มีข่าวออกไปตามสื่อต่างๆ แล้วทางผู้จัดการจะให้ทำอย่างไร เขาเหมือนอยากจบ ก็ทักมาบอกว่าสะดวกให้เลขบัญชีไหมคะ เราเลยรู้สึกว่าอยากให้มาขอโทษด้วยตัวเอง หรือโทร.มามากกว่าเพราะตอนที่เรียกเก็บเงินเรา เราคุยกับคุณ แต่ตอนที่จะคืนเงินหรือขอโทษ มันคือการพิมพ์ มันไม่รู้สึกว่าคุณอยากขอโทษ เราไม่ได้ต้อการเรียกร้องว่าจะต้องจ่ายเงิน เราแค่ต้องการความรู้สึกที่มาจากใจจริงๆ ว่าอยากขอโทษจริงๆ และอยากคืนเงินจากใจจริงๆ
ต่อมา ทางคาเฟ่ที่เกิดเหตุได้ติดต่อเพื่อขอชี้แจง ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ร้าน POUR OVER LAB ตั้งอยู่ที่ ม.5 ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมี น.ส.ธัญญพัฒน์ นิธิโชติธนกิจ เจ้าของคาเฟ่ดังกล่าว พร้อมทั้งพนักงานพาร์ทไทม์ และ น.ส.เอื้ออารีย์ พยัคฆ์ อายุ 32 ปี หุ้นส่วนร้าน พร้อมทั้งชี้แจงกับทางผู้สื่อข่าว
พนักงานพาร์ทไทม์กล่าวว่า วันนั้นตนได้ถูพื้นอยู่ เนื่องจากมีฝนตกลงมา และลูกค้าหลังจากสั่งน้ำก็เดินลงมา และพูดว่าเก้าอี้ตัวนี้นั่งได้ใช่ไหม ตนเลยบอกว่านั่งได้แต่ไม่ได้สังเกตว่าหยิบโต๊ะหรือเก้าอี้ไป พอหยิบไปตนขึ้นไปด้านบน เมื่อเสร็จธุระตนลงมาด้านล่างพบว่าขาโต๊ะถูกวางกองไว้อยู่ที่ตนได้เก็บไว้ตอนแรก ตนจึงได้เดินไปถามลูกค้าว่าทำหักใช่ไหม ลูกค้าบอกว่าใช่ และลูกค้าได้ทำแผ่นรองตกน้ำไปด้วย ตนเลยขึ้นไปบอกแคชเชียร์และได้ถ่ายรูปให้ผู้จัดการดู ก่อนที่ทางลูกค้าจะขึ้นไปด้านบนเพื่อที่จะถ่ายรูปต่อ
น.ส.เอื้ออารีย์ กล่าวว่า หลังจากที่แจ้งแคชเชียร์แล้วตนได้เช็กกล้องวงจรปิด พบว่าเห็นลูกค้ายกออกไปนั่งและล้มลง พอมาถึงร้านตนได้เดินเข้าไปคุยกับลูกค้าว่าเรื่องโต๊ะปิกนิกมีค่าใช้จ่าย 500 บาท ทางลูกค้าแจงว่าราคา 500 บาทเลยหรอ ทางลูกค้าได้ส่งรูปให้ดูขณะที่กำลังถ่ายและขณะที่ล้มลงไป ตนเลยบอกว่ามันเป็นโต๊ะปิกนิก มันมาเป็นเซ็ต เขาบอกว่ามาบ่อยแล้ว ทางตนจึงบอกไปว่ามันมีค่าใช้จ่าย ลูกค้าก็แย้งว่าน้องบอกว่านั่งได้ และมีลูกค้าทำหักไปหลายตัวแล้ว แต่ตนไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้ม และพยักหน้ากลับ ทางฝั่งเพื่อนได้บอกว่าให้จ่ายๆ ไปจะได้จบ พอเสร็จแล้วโอนเข้าบัญชีของตน และตนโอนเข้าบัญชีของร้านอีกที
ด้าน น.ส.ธัญญพัฒน์ หุ้นส่วนของร้านกล่าวว่า วันนี้อยากชี้แจงเนื่องจากมีสำนักข่าว หรือสื่อได้นำข้อความที่โพสต์นำเสนอออกไปเยอะมาก และมีคำหลายคำที่ฟังแล้วเรารู้สึกตกใจ เนื่องจากเราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เช่นคำว่าหลอกให้นั่ง ตามกล้องวงจรปิดแล้วเมื่อเขาไปนั่งเสร็จแล้วหัก พอหักก็เดินไปเปลี่ยนเก้าอี้มานั่ง แต่ที่จริงแล้วมันนั่งไม่ได้ เพราะนั่นคือโต๊ะ ไม่ใช่เก้าอี้ แต่ส่วนที่ทางผู้จัดการเรียกเก็บเงินนั้น เนื่องจากมีสิ่งของเสียหาย และของที่มีมานั้นเป็นเซ็ต ราคากว่า 2 พันบาท แต่เราเก็บแค่ 500 บาท ตามความเหมาะสม แต่หลังจากที่มีการลงข่าวไปรุนแรงมาก ทางร้านได้มีการให้ทางผู้จัดการติดตามขอเลขบัญชีได้ไหมทางเราจะโอนเงินคืนไปให้ ทางน้องบอกว่ามีหลายสำนักข่าวมาติดต่อขอสัมภาษณ์ ไม่รู้จะทำอย่างไร และไม่รับเงิน 500 บาทของเรา ทางร้านอยากให้สบายใจทั้งสองฝ่าย แต่สิ่งที่เสียใจมากคือช่องข่าวหลายๆ ช่องนำไปโพสต์ มองแค่ด้านเดียวไม่มาสัมภาษณ์เลย อยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าอยากให้ทำข่าวทั้งสองด้าน หรือให้สังคมเสพข่าวทั้งสองด้าน แต่สิ่งที่น้องเขาโพสต์มันคือโต๊ะไม่ใช่เก้าอี้ และเราไม่ได้หลอก เขาเดินไปหยิบเอง ขอชี้แจงในฝั่งของเรา และขอโอกาสถ้าอะไรที่ออกไปไม่ดี อยากจะให้กลับมาดีกว่านี้ อยากให้ทุกช่องข่าวกลับมาคุยกับเราและมาดูความจริงว่าคืออะไรกันแน่