เชียงใหม่ - ตำรวจสันทรายรวบหนุ่มหัวใสใช้เครื่องพรินต์พิมพ์ธนบัตรปลอมใช้เองนำไปหยอดตู้เติมเงินตามหน้าร้านขายของชำในชุมชน โอนเข้าบัญชีธนาคารและมือถือนำไปใช้จ่ายซื้อยาเสพติด สารภาพก่อเหตุแล้ว 3 ครั้ง กระทั่งถูกจับกุม
วันนี้ (5 ก.พ. 65) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สราวุธ จันมะโน ผกก.สภ.สันทราย นำโดย พ.ต.ท.พูนทรัพย์ รวมสุข รอง ผกก.สส.ฯ และชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายดำรงศักดิ์ วงค์ตาน้อย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้คืนวานนี้ พร้อมด้วยของกลางเครื่องถ่ายเอกสาร ยี่ห้อ EPSON รุ่นอีโคแท็งก์ แอล 3210 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง, ธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 บาท หมายเลข 2 ท 1217595 จำนวน 5 ฉบับ และธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 บาท หมายเลข 9 ต 0225103 จำนวน 2 ฉบับ โดยกล่าวหาว่า “ปลอมและใช้สิ่งของทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น โดยผิดกฎหมาย” เหตุเกิดที่ร้านวรวุฒิ เลขที่ 70 ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเบื้องต้นนายดำรงศักดิ์ให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 11.58 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งได้เปิดตู้รับเติมเงินสดเข้าบัญชีทางการเงินต่างๆ ว่าก่อนทราบเหตุได้เข้าไปเปิดตู้บัตรเติมเงินในตู้รับเงิน ผลปรากฏว่าพบธนบัตรที่มีผู้ใช้บริการนำมาใส่ในเครื่องพบเป็นธนบัตรปลอม โดยเป็นฉบับละ 100 บาท จำนวน 29 ฉบับ รวมเป็นเงิน 2,900 บาท ผู้เสียหายทราบว่าเป็นฉบับปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
โดยชุดสืบสวนจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายดำรงศักดิ์เป็นผู้ที่ปลอมธนบัตรและนำไปใช้ใส่ในเครื่องเติมเงินอัตโนมัติที่จะมีวางไว้ประจำแต่ละร้านในชุมชนย่านที่เกิดเหตุ อีกทั้งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบลักษณะบุคคลต้องสงสัย จึงได้ติดตามไปที่บ้านพักและสอบถามกระทั่งให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ พร้อมให้รายละเอียดการก่อเหตุว่าเริ่มต้นจากการนำเครื่องพรินต์มาวางถ่ายเอกสารด้านหนึ่ง จากนั้นได้วัดระยะห่างตามขนาดเครื่องพรินต์ แล้วกลับหน้ากระดาษเพื่อให้ถ่ายเอกสารอีกหน้าหนึ่งให้ตรงกับกระดาษที่ถ่ายไว้แล้วด้านหนึ่ง เมื่อถ่ายตรงกันทั้งสองด้านก็ได้ตัดออกเป็น 1 ฉบับ จากนั้นก็ได้ทำเป็นชุดๆ จำนวนหลายชุด/ฉบับ
จากนั้นก็ได้นำเงินปลอมดังกล่าวไปหยอดเติมเงินตู้อัตโนมัติเพื่อโอนเข้าบัญชีตนเอง หรือเติมเงินเข้าโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ กระทั่งถูกชุดจับกุมตรวจพบและขยายผลจนกระทั่งทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดดังกล่าว และรับอีกว่าได้ก่อเหตุมาแล้วประมาณ 3 ครั้ง เหตุจูงใจเนื่องจากเคยทำงานโรงพิมพ์มาก่อนจึงลองนำเงินจริงมาพรินต์แล้วลองไปหย่อนในตู้ ปรากฏว่าตู้เติมเงินได้อ่านแล้วโอนเงินจริงมาให้เลยย่ามใจทำแล้ว 3 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้มาใช้ซื้อยาเสพติดมาเสพ หลังสอบสวนเสร็จจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดี
