เชียงใหม่ - สมาพันธ์ SMEs เชียงใหม่พัฒนาสำเร็จแอปพลิเคชัน “S.O.S. Thailand” จับมือจังหวัดเชียงใหม่และทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เริ่มทดลองใช้งาน อำนวยความสะดวกประชาชนเชื่อมโยงฐานข้อมูลเป็นหนึ่งเดียว แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านสมาร์ทโฟน ขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วานนี้ (3 ม.ค. 64) นายอาคม สุวรรณกันธา ประธานสมาพันธ์ SMEs จังหวัดเชียงใหม่ และนายชัยประเสริฐศิริ ทองสนิท ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน S.O.S Thailand ร่วมหารือและแนะนำการใช้แอปพลิเคชัน S.O.S Thailand ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, เทศบาลนครเชียงใหม่ และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำมาใช้ในการเพิ่มช่องทางการแจ้งเหตุฉุกเฉิน เหตุด่วนเหตุร้าย ได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
โดยแอปพลิเคชัน S.O.S Thailand มีจุดเด่น คือ การแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายและขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องจดจำหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานใดๆ อีกทั้งยังมีระบบ GPS แจ้งจุดเกิดเหตุ และสามารถแจ้งเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม เช่น การลักลอบกระทำผิดกฎหมาย, การถูกคุกคามทางเพศ, คดีอาชญากรรม, การขายของเกินราคา, ไฟฟ้าดับ หรือแม้แต่การขอความช่วยเหลือยามเจ็บป่วย เป็นต้น ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวจะช่วยเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการให้บริการหลากหลาย ในแบบ One Stop Service เช่น ซ่อมรถ ลากรถเสีย ซ่อมระบบประปา เพื่อช่วยยกระดับให้จังหวัดเชียงใหม่ก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ที่มีความปลอดภัย ประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวผ่านมือถือได้ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งแอปพลิเคชัน S.O.S Thailand นี้พัฒนาโดยคนเชียงใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ทั้งนี้ นายชัยประเสริฐศิริ ทองสนิท ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน S.O.S Thailand กล่าวว่า ขณะนี้แอปพลิเคชัน S.O.S Thailand ได้พัฒนาจนแล้วเสร็จ และได้เริ่มนำมาติดตั้งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ได้ทดลองใช้แล้วตั้งแต่นี้เป็นต้นไป โดยเริ่มจากตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ก่อน จากนั้นจะเป็นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานด้านการบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ เป็นการนำร่องที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นแห่งแรก ก่อนจะขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป ซึ่งในระยะแรกที่เป็นช่วงทดลองใช้นี้หากมีผู้ประสบปัญหาการใช้งาน ก็จะมีการช่วยกันพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละหน่วยงานให้ทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่ซ้ำซ้อน สามารถนำมาช่วยแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนชาวเชียงใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จากนั้นในเดือนต่อไปก็จะเริ่มเปิดระบบให้ประชาชนทั่วไปดาวน์โหลดมาใช้งานแจ้งเตือนภัยได้ และคาดว่าจะเปิดใช้งานได้เต็มระบบก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง