เชียงใหม่/แม่ฮ่องสอน - ปัญหาผักล้นตลาด-ราคาดิ่งเหว ต้องไถทิ้งเป็นปุ๋ยยังไม่จบ..กลุ่มรถขนผักหลายจังหวัดหอบหลักฐานร้องสื่อ หลังซื้อผักเกษตรกรส่งขายบริษัทตามโฆษณาหน้าเพจ เจอโยกโย้ไม่จ่ายเงิน เดือดร้อนกันระนาวทั้งถูกชาวสวนทวง ค่างวดรถทบต้นทบดอกซ้ำ
น.ส.กมลวรรณ จินดาหลวง, นายรัตนพันธ์ วัดอ่อน, นายสุชาติ เจริญชัยนันต์ และนางอัญชลีพร เพชรมณีธร ในนามตัวแทนกลุ่มรถบรรทุกรับจ้างขนพืชผลทางการเกษตร ทั้งจากพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก ลำพูน และเชียงราย ได้นำหลักฐานเข้าร้องต่อสื่อมวลชน
อ้างว่ากลุ่มของตนเองเป็นกลุ่มรถบรรทุกขนส่งพืชผลทางการเกษตรจากชาวบ้านหรือเกษตรกรแต่ละพื้นที่เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อรายหนึ่ง ซึ่งมีที่ตั้งอยู่หลังห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ชื่อหน้าเพจว่า Northern Agriculture ระบุเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ รับซื้อจำนวนมากและจ่ายเงินสดทันที ซึ่งได้มีการติดต่อพูดคุยกันผ่านทางไลน์จนกระทั่งมีการตกลงซื้อขายขึ้น
น.ส.กมลวรรณ จินดาหลวง ผู้ประกอบการรายหนึ่งในจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ตนและพรรคพวกเจอโฆษณาหน้าเพจ จนได้ทำการติดต่อซื้อขายพืชผลทางการเกษตร ตกลงให้ตัดและบรรทุกไปส่งที่บริษัท เริ่มทำการซื้อขายกันมาตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
ผู้ประกอบการรถบรรทุกแต่ละรายจะต้องซื้อด้วยเงินสดหรือนัดชำระเงินให้แก่เกษตรกรเจ้าของสวนผักที่มีทั้งผักกาดขาวและกะหล่ำปลี แต่เมื่อนำสินค้ามาส่งก็ต้องเจอกับมาตรการต่างๆ ที่ไม่เคยตกลงกันมาก่อนหน้า ทั้งการให้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่จะต้องใช้ถุงและแรงงานของทางผู้รับซื้อ นอกจากนี้ยังบอกว่าผลผลิตไม่ตรงกับที่สั่งหรือมีบางส่วนเน่าเสีย ทั้งๆ ที่วันที่นำรถบรรทุกมาส่งของก็เข้าชั่งน้ำหนักตามปกติ ทำให้แต่ละรายต้องยอมรับสภาพเพื่อให้ได้เงินกลับไปจ่ายเกษตรกร
แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด เมื่อมีการทวงถามก็อ้างสารพัดหรือบอกว่าให้ส่งบัญชีที่จะให้โอนเงินใหม่อีกครั้ง เมื่อเข้าไปขอเจรจาเพื่อขอรับเงินในส่วนที่ตนเองจะได้ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ จนต้องนำเรื่องไปแจ้งความที่ สภ.แม่ปิงและร้องทุกข์ไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รวมทั้งรวมตัวกันไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่
"พวกเราก็เกรงว่าเรื่องจะเงียบจึงรวมตัวกันมาร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนอีกทางหนึ่ง เนื่องจากได้ล่วงเลยเวลามานานแล้ว ประกอบกับเจ้าของรถแต่ละคันก็ถูกเกษตรกรทวงถามค่าพืชผลมาด้วย จนทำให้เครียดหนัก"
ด้านนายรัตนพันธ์ วัดอ่อน เจ้าของรถบรรทุกอีกรายจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้พยายามทุกทางที่จะขอเจรจาและขอรับเงิน แต่ก็ไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ต้องการที่จะฟ้องร้องอะไรทั้งสิ้น แต่ต้องมาเดือดร้อนเพราะรับปากกับเจ้าของสวนไว้ จนตอนนี้ติดหนี้สินเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ตนเองไม่เคยเป็นหนี้ใครมาก่อน และก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงจะต้องมีค่างวดรถกระบะที่จะต้องผ่อนส่งกับไฟแนนซ์ จนกลายเป็นปัญหาคาราคาซัง
ขณะที่นายสุชาติ เจริญชัยนันต์ เจ้าของรถบรรทุกอีกรายจาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่เป็นเพียงรายเดียวที่ยอมเข้าไปเซ็นสัญญากับบริษัทรับซื้อเพื่อหวังว่าอาจจะได้เงินมาปลดหนี้สินบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกัน เพราะแม้จะเซ็นสัญญาไปแล้วก็ยังไม่ได้รับเงินเช่นเดียวกัน
ล่าสุดทราบว่าทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำหนังสือถึงบริษัทรับซื้อดังกล่าว ให้ดำเนินการเจรจาหาข้อตกลงและหาทางคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากบริษัท ในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการรถขนผักที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้มีจำนวน 11 รายและมีมูลค่าของสินค้าที่ไม่ได้รับเงินอีกราว 1 ล้านบาท เตรียมรวมตัวกันทั้งหมดเพื่อเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับที่สูงขึ้นต่อไป เพราะแต่ละคนมีภาระค่าใช้จ่ายและเป็นหนี้สินกันจำนวนมาก ประกอบกับเป็นปัญหาที่มีคนเดือดร้อนอยู่หลายจังหวัดและมีมูลค่าสูง