xs
xsm
sm
md
lg

สุดระทม! ผักจีนทะลักเต็มตลาด-ปุ๋ย/น้ำมันแพงซ้ำ พี่น้องม้งแม่ฮ่องสอนจำใจตัดผักกาดขาว-ทิ้งเน่ายกแปลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ฮ่องสอน - เกษตรกรชาวม้งแม่ฮ่องสอนสุดระทม..จำใจตัดทำลาย-ปล่อยผักกาดขาวเน่าทิ้งทั้งแปลง หลังผักจีนทะลักกระทบราคาดิ่งเหวเหลือกิโลฯ ละบาท แถมเจอปุ๋ย-น้ำมันแพงซ้ำ เคยขนไปขายแม่สะเรียง-เชียงใหม่ไม่มีคนซื้อจนเน่าคารถมาแล้ว


กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันทั่ว..หลังพี่น้องชาวม้งแม่ฮ่องสอนโพสต์คลิปภาพเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเป็นภาพขณะพากันนำเครื่องตัดหญ้าเข้าตัดผักกาดขาวที่ปลูกมากับมือจนได้ผลผลิตแต่ขายไม่ได้ราคา ต้องตัดใจตัดทิ้งแบบยกแปลง

จากการติดตามตรวจสอบ พบเกษตรกรรายดังกล่าวคือ นายประสิทธิ์ เลาหลื่อ ชาวม้งบ้านม้งไมโครเวฟ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้รวบรวมสมัครพรรคพวกอีกหลายรายลงมาเช่าพื้นที่ราบริมน้ำบ้านห้วยเดื่อ ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อปลูกผักกาดขาวกว่า 100 ไร่ เนื่องจากแปลงเพาะปลูกบนดอยไม่มีน้ำ

นายประสิทธิ์เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องตัดทำลายแปลงปลูกผักกาดขาวทิ้งตามคลิปดังกล่าวนั้น เนื่องจากประสบกับปัญหาไม่สามารถตัดผักกาดขาวไปจำหน่ายได้ ไม่มีตลาดรับซื้อ ราคาก็เหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาท ประกอบกับน้ำมันแพงยิ่งกลายเป็นปัญหามากขึ้นไปอีก จากเดิมที่เคยตัดส่งป้อนเข้าตลาดทั้งที่อำเภอแม่สะเรียงและที่จังหวัดเชียงใหม่ มาถึงวันนี้ทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด

“บางวันยอมเสี่ยงตัดและบรรทุกออกไปรอขายก็ไม่มีพ่อค้ามาซื้อ ต้องจอดรอความหวังจนผักเน่าคารถก็เจอมาแล้ว ตรุษจีนหวังว่าจะขายผักได้ราคาดี ก็ต้องมาเจอกับผักที่ทะลักมากับขบวนรถไฟจากจีนเทียบท่าที่ลาว แล้วกระจายมายังอีกหลายตลาดในประเทศไทยตีตลาดซ้ำอีก ไม่เว้นแม้แต่ตลาดที่จังหวัดเชียงใหม่ก็มีผักจีนมาขาย”

เมื่อเจอทางตันแบบนี้ก็ต้องยอมตัดทิ้งเพื่อให้คนได้รู้ว่าเกษตรกรเริ่มจะไม่มีทางไปแล้ว ซึ่งผลผลิตของตนที่ต้องทำลายทิ้งไปมีมากกว่า 200,000 กิโลกรัม ไม่นับรวมกับพี่น้องเกษตรกรรายอื่นๆ อีก

ขณะที่ราคาที่พอจะให้เกษตรกรอย่างพวกเราอยู่ได้นั้นต้องไม่ต่ำกว่ากิโลฯ ละ 5-6 บาท ไม่เพียงเท่านั้นปุ๋ยที่เคยซื้อกระสอบละ 700-800 บาท ได้ขยับตัวขึ้นไปอยู่ที่กระสอบละ 1,200-1,300 บาท หากรวมกับค่าเมล็ดพันธุ์และค่าแรงแล้วถือว่าตอนนี้อยู่ไม่ได้ อยากจะวอนให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ด้านศุลกากรภาค 3 รายงานว่า ในปีงบประมาณ 2564 มีการนำเข้ากะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปม เคลและพืชที่คล้ายกันในตระกูลบราสซิกา สดหรือแช่เย็น ผ่านด่านการค้าต่างๆ ในภาคเหนือ มากเป็นอันดับ 4 โดยมีมูลค่ากว่า 1,896,928,335 บาท และพืชผักอื่นๆ ทั้งสดและแช่แข็งนำเข้ามูลค่า 1,470,091,780 บาท

ขณะที่จุดผ่านแดนถาวรเชียงของ สะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ จ.เชียงราย ที่เชื่อมไปถึงมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ในเดือนตุลาคม 2564 มีการนำเข้าผัดสดจากจีนมูลค่า 1,470,091,780 บาท และเดือนพฤศจิกายน 2564 มีการนำเข้ามูลค่า 48,239,099.11 บาท








กำลังโหลดความคิดเห็น