กาญจนบุรี - พาไปดูความน่ารักของ "พลายคำน้อย" ช้างของกลางอายุ 4 ปีเศษ หนักร่วม 1 ตัน มีนิสัยชอบแกล้งและสุดดื้อ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ส่วนคดีความอยู่ในชั้นสอบสวน
จากกรณีนายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.เข้าตรวจยึดลูกช้างเพศผู้ ชื่อพลายคำน้อย มาจากบริษัทช้างแม่น้ำแคว จำกัด (แคมป์ช้างวังจาน) เลขที่ 31 หมู่ที่ 8 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยมีนาย Kenji Alison ลูกครึ่งฝรั่งเศสฟิลิปปินส์ ผู้แทนบริษัทฯ และเป็นผู้ครอบครอง เนื่องจากช้างตัวดังกล่าวนั้นถูกตั๋วรูปพรรณ อีกทั้ง DNA ของช้างไม่ตรงกับแม่คือช้างพังคำศรี ที่อยู่ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งได้ตรวจยึดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มอบพลายคำน้อย ให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รับผิดชอบเลี้ยงดูไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ล่าสุด วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ หมู่ 4 บ้านหนองหอย ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สถานที่ดูแลพลายคำน้อยอีกครั้งหนึ่ง พบนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พร้อมเจ้าหน้าที่ควาญช้าง 2 นาย กำลังดูแลพลายคำน้อย อย่างใกล้ชิด โดยพลายคำน้อย นั้นได้ใช้งวงหักกอไผ่เพื่อกินขุยไผ่อย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้นำมะกอกป่า รวมทั้งกล้วยมาให้พลายคำน้อยได้กินอีกด้วย สำหรับรูปร่างของพลายคำน้อย นั้นใหญ่โตขึ้นมาก มีน้ำหนักร่วม 1 ตัน มีนิสัยที่ดื้อและซุกซน ปัจจุบันพลายคำน้อยมีอายุประมาณ 4 ปีเศษ
นายไพฑูรย์ เปิดเผยว่า เนื่องจากคดีนั้นยังไม่สิ้นสุด ปัจจุบันอยู่ขั้นตอนการสอบปากคำของพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า ดังนั้น คดีจึงยังอยู่ในชั้นสอบสวน ซึ่งระหว่างการสอบสวน ช้างตัวนี้ต้องอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด โดยครั้งแรกนั้นทางกรมอุทยานฯวางแผนเอาไว้ว่าจะนำช้างไปมอบให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี เป็นผู้ดูแล แต่เนื่องจากมีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการเคลื่อนย้าย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จึงรับเป็นผู้ดูแลแทน
ซึ่งการนำช้างของกลางมาดูแลครั้งแรกนั้นยอมรับว่าก็ยังงงๆ กันอยู่ว่าจะทำอย่างไร เพราะถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ของเราบางคนจะเคยผ่านการอบรม จากสถาบันคชบาลแห่งชาติ จังหวัดลำปาง มาแล้วก็ตาม แต่ไม่เคยดูแลช้างอย่างจริงจังมาก่อน ถือว่าโชคดีที่ได้เจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงห้วยทราย เข้ามาให้ความช่วยเหลือคอยแนะนำขั้นตอนและวิธีการต่างๆ นานนับเดือน จนเกิดความชำนาญ
