กาญจนบุรี - สลด! 5 นายพรานใจบาปใช้ซากวัวเป็นเหยื่อล่อสัตว์ป่า จ่อยิงเสือโคร่งเสียชีวิตพร้อมกัน 2 ตัว นำมาแล่เนื้อย่างไฟแล้วเอาหนังไปตากแห้ง ขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมสุนัขนำทางเกิดเห่า ทำให้คนร้ายหนีรอดหวุดหวิด
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าอย่างเด็ดขาด
ล่าสุด ได้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยระหว่างวันที่ 8-11 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้พนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ รวม 10 นาย นำโดยนายวันชัย สูนคำ พนักงานพิทักษ์ป่าออกลาดตระเวนตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศพม่า จนกระทั่งเวลา 10.00 น.ของวันที่ 9 ม.ค.เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้ลาดตระเวนไปถึงป่าลำห้วยปิล๊อก หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ห่างจากเขตชายแดนไทย-พม่าประมาณ 3-4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มควันไฟมาจากลำห้วย จึงทำการซุ่มเข้าตรวจสอบ พบกลุ่มบุคคล จำนวน 5 คน ตั้งแคมป์อยู่ริมลำห้วย ระหว่างเข้าทำการจับกุมตัวนั้น ปรากฏว่า สุนัขของกลุ่มคนร้ายที่ใช้นำทางเห่าขึ้นมาเสียก่อน ทำให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่แล้ววิ่งหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามวิ่งไล่แต่ไม่ทัน เนื่องจากกลุ่มบุคคลเหล่านั้นชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี
จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบแคมป์พัก เจ้าหน้าที่ทุกนายต่างรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบว่าเสือโคร่งถูกยิงเสียชีวิต จำนวน 2 ตัว แล้วแล่เอาเนื้อมาย่างไฟ ส่วนหนังของเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว ถูกนำมาขึงให้แห้ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ อีก จำนวน 29 รายการ ตกอยู่ที่แคมป์พัก
จากการตรวจสอบโดยรอบพบซากวัว จำนวน 1 ตัว ถูกนำมาผูกเอาไว้กับต้นไผ่ สำหรับเอาไว้เป็นเหยื่อล่อเสือโคร่งให้มากินเป็นอาหาร เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว คงจะออกมาหากินตามแนวชายแดนไทย-พม่า
ต่อมา วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบซากเสือโคร่ง รวมทั้งอาวุธปืนเพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานอยู่นั้น นายชูชาติ สวดมนต์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้รับโทรศัพท์จากคนที่อ้างตนเองว่าว่าชื่อนายป้อม ทองผาประวิต โดยนายป้อม ได้โทร.มาขออาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อวินเชสเตอร์ หมายเลขประจำปืน 1526415 คืนจากเจ้าหน้าที่ โดยแจ้งว่าอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวนั้นเป็นของนายบุญถิ่น จันทร์เขต เจ้าหน้าที่ อปพร.จากข้อมูลดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะทำบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ว่าบุคคลที่แอบอ้างนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่
นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้ (12 ม.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้นำหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีในโดยเร็วอย่างแน่นอน และนอกจากนี้ ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เก็บตัวอย่างซากเสือโคร่งทั้ง 2 ซากส่งไปตรวจ DNA ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ อย่างละเอียดเพื่อให้ทราบว่าเสือทั้ง 2 ตัวมีอายุประมาณเท่าไหร่ และถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดใด เพื่อใช้เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
ขณะที่นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้รายงานว่า สำหรับอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่ 772,214ไร่ มีแนวเขตด้านตะวันตกติดชายแดนพม่า ระยะทาง 152 กิโลเมตร มีเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าปกป้องป่าและสัตว์ป่า 120 นาย โดยตนและเจ้าหน้าที่ทุกนายขอให้คำมั่นว่าจะดูแลรักษาปกป้องพื้นที่ป่า และสัตว์ป่า เท่ากับชีวิตของตนเองเพื่อให้เป็นมรดกของประเทศชาติต่อไป