กาญจนบุรี - เศร้า! พี่ใหญ่แห่งป่าสลักพระเหยื่อกระบะพุ่งชนริมถนนสาย 3199 ล้มแล้ว พบเป็นเพศผู้อายุ 30 ปี หลังเข้ารับการรักษาได้ 2 วัน สุดท้ายไม่รอด
จากกรณีช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนได้รับบาดเจ็บขาหน้าด้านขวาหัก หลังเกิดเหตุช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินโขยกหนีเข้าไปในผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเช้าวันที่ 9 ม.ค.65 หลังเกิดเหตุนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พร้อมด้วย น.ส.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ น.ส.กนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้ออกติดตามหาเพื่อวางแผนในการรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ amoxicillin + clavulanic acid ครั้งละ 20 เม็ด และยาลดการอักเสบ iblrofen ครั้งละ 35 เม็ด ยัดใส่เข้าไปในกล้วย สับปะรด และขนุน เพื่อให้ช้างได้กิน โดยนำไปวางไว้ทั้งหมด 2 จุด จุดแรกบริเวณบ่อน้ำเจดีย์พุขนาย และบริเวณป่าหัวพุขนาย ที่อยู่ห่างจากกันประมาณ 1 กิโลเมตร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (11 ม.ค.) นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้รายงานให้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ผู้บังคับบัญชาให้ทราบว่า ช้างที่บาดเจ็บเนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 บนถนนสาย 3199 เส้นทางกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ หมู่ 2 ต.วังดง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากการติดตามของสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้พบช้างตัวดังกล่าวนอนอยู่ในบริเวณลำห้วยแห้ง ป่าพุขนาย ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ทีมงานสัตวแพทย์จึงได้สังเกตอาการ พบว่า ช้างน่าจะบาดเจ็บที่ขาแล้วเกิดอาการอักเสบรุนแรงไม่สามารถทรงตัว จึงให้น้ำเกลือ และฉีดยาแก้อักเสบรักษาอาการปวดให้ พร้อมทั้งให้น้ำตลอดเวลา
แต่อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 15.50 น.ช้างป่าตัวดังกล่าวเกิดอาการกระตุกขึ้นมา และได้เสียชีวิตลงแล้ว การเสียชีวิตของช้างป่าตัวดังกล่าว สัตวแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เชื่อว่าหากประชาชนทั่วไปทราบข่าวคงจะเสียใจเช่นกัน
หลังจากที่ช้างได้เสียชีวิตลง จึงได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีทางศาสนา เพื่อให้ช้างป่าไปสู่ภพภูมิที่ดี หลังจากนั้น สัตวแพทย์จะทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของช้างอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนำรถแบ็กโฮเข้ามาขุดหลุมเพื่อฝังร่างของช้างป่าต่อไป สำหรับช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างเพศผู้ อายุประมาณ 30 ปี