(คลิป)ระทึก! วินาทีหนีช้างป่าพุ่งใส่ ขณะทีมสัตวแพทย์จะเข้าไปรักษาช้างเจ็บ

กาญจนบุรี - ระทึก! เจ้าหน้าที่ รวมทั้งสัตวแพทย์ และนักข่าววิ่งป่าราบหลังถูกช้างป่าพุ่งใส่ขณะที่ทีมสัตวแพทย์จะเข้าไปทำการรักษาช้างเจ็บ หลังถูกกระบะพุ่งชนขาหัก เมื่อช่วงเช้า

จากกรณีรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 5 กย 7763 กรุงเทพ พุ่งชนช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระอย่างแรง ทำให้รถยนต์กระบะพังเสียหายยับเยิน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 2 ราย ส่วนคนขับเป็นชายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ช้างป่าที่ถูกชนได้รับบาดเจ็บขาหน้าด้านขวาหัก เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 07.30 น.วันนี้ (9 ม.ค.) บนถนนสาย 3199 ลาดหญ้า-ศรีสวัสดิ์ บ้านท่ามะนาว หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สำหรับช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้ยังไม่สามารถระบุเพศได้ โดยเป็นช้างที่โตเต็มวัย อายุประมาณ 15-20 ปี หนักประมาณ 6-7 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นช้างที่ตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง หลังถูกรถชนช้างตัวดังกล่าวได้เดินหายเข้าไปในผืนป่าทันที

ล่าสุด บ่ายวันนี้ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พร้อมด้วย น ส.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ น ส กนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมกว่า 10 นาย ได้ออกติดตามหาด้วยการเดินไปตามร่องรอยของกิ่งและต้นไม้ที่หักล้มลง การติดตามเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากตลอดเส้นทางมีกอไผ่ล้มขวางทาง รวมทั้งเต็มไปด้วยหนาม



อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้พบช้างตัวดังกล่าวอยู่ภายในป่าห่างจากถนนสาย 3199 เข้าไปเกือบ 1 กิโลเมตร ระหว่างนั้นช้างได้ส่งเสียงร้องออกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร ได้ตะโกนเรียกแทนช้างว่า “พี่ใหญ่ เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือพี่ใหญ่แล้ว อย่าโมโหนะ” ซึ่งนายไพฑูรย์ และเจ้าหน้าที่ได้เรียกพี่ใหญ่ได้ไม่นานนัก ความระทึกก็เกิดขึ้น เมื่อช้างป่าได้พุ่งชนต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขวางหน้าเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ สัตวแพทย์ รวมทั้งสื่อมวลชนที่ไปทำข่าววิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง และในที่สุดเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนเอชเคยิงขึ้นฟ้าไป จำนวน 3 นัด เมื่อช้างได้ยินจึงตกใจและถอยร่นกลับเข้าป่า ทำให้ทุกคนโล่งอกขึ้นมาในทันที


ทั้งนี้ นายไพฑูรย์ เผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว ขับโดยผู้ชาย และมากับผู้หญิงอีก 2 คน พุ่งชนช้างป่าบนถนนสาย 3199 คาดว่าช้างตัวดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากระหว่างช้างเดินเข้าป่าลักษณะเดินลากขาหน้าด้านขวา เบื้องต้น ทางเราได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว

จากนั้นได้ประสานขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ให้เดินทางมาเพื่อตรวจดูอาการของช้างเพื่อที่จะได้ทำการรักษาให้ถูกวิธีตามหลักการของสัตวแพทย์ แต่เมื่อสักครู่ตามที่เห็นพบว่าช้างยังมีอาการบาดเจ็บ และมีนิสัยที่ดุ ขณะวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่จนต้องวิ่งหนี สังเกตพบว่าวิ่งในลักษณะขาหน้าโขยก

โดยสัตวแพทย์ที่มาได้วางแผนกันเอาไว้ว่าจะนำเอายาไปไว้ที่แหล่งน้ำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่คาดว่าช้างที่ได้รับบาดเจ็บยังไม่ได้กินน้ำมาตั้งแต่ช่วงเช้า สำหรับแหล่งน้ำดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดที่พบช้างไปประมาณไม่เกิน 800 เมตร โดยจะนำยาแก้อักเสบยัดใส่เข้าไปในลูกสับปะรด ลูกขนุน หรือกล้วย เอาไปวางไว้ที่แหล่งน้ำเพื่อให้ช้างตัวดังกล่าวได้กิน

แต่อุปสรรคที่สำคัญคือ แหล่งน้ำบริเวณนั้นมีช้างป่าอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามากินน้ำเช่นเดียวกัน หากช้างป่าตัวที่ได้รับบาดเจ็บไปถึงแล้วพบว่าช้างกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่แหล่งน้ำเชื่อว่าช้างตัวนี้คงไม่กล้าที่จะลงไป แต่ถ้าหากลงไปเชื่อว่าช้างคงจะทำร้ายกันแน่นอน แต่ถ้าหากไปแล้วไม่พบช้างจะได้กินผลไม้ที่ใส่ยาเข้าไปถือว่าโชคดี

หลังจากนี้เราจะจัดกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกให้ไปเฝ้าที่แหล่งน้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่เกิน 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่จะนำผลไม้ใส่ยาไปให้กิน ส่วนชุดที่ 2 ให้เฝ้าอยู่บริเวณนี้ เพื่อคอยสังเกตว่าช้างจะเดินไปทางไหน โดยให้ประสานกันตลอดเวลา

จากความคิดเห็นของสัตวแพทย์ระบุว่า ช้างยังสามารถยืนตรงได้โดยที่ไม่ได้ย่อขาข้างที่เจ็บ แต่เมื่อสักครู่ที่ช้างวิ่งใส่พวกเราเป็นลักษณะวิ่งแบบโขยกเหมือนไม่ถนัด แต่ถ้าวิ่งแบบถนัดพวกเราคนใดคนหนึ่งคงจะได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน แต่โชคดีที่ช้างยังบาดเจ็บอยู่


นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการติดตามหาช้างนอกจากจะให้เจ้าหน้าที่เดินตามหาแล้ว ขณะเราได้ประสานไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เพื่อส่งเจ้าหน้าที่พร้อมโดรนมาบินตามหาอีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางมา แต่ปัญหาการใช้โดรนบินคือพื้นที่ที่ช้างเดินนั้นเป็นป่ารกทึบ จึงยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถถ่ายภาพมองเห็นตัวช้างหรือไม่ แต่จะพยายามบินให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้มองเห็นตัวช้างหรือร่องรอยที่ช้างเดิน แต่การใช้โดรนนั้นจะมีความปลอดภัยกว่าการเดิน เพราะการเดินจะต้องรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างป่าตัวดังกล่าวมีนิสัยที่ดุร้ายมาก

อย่างไรก็ตาม ต้องขอฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนสาย 3199 ตั้งแต่ตำบลวังด้ง ไปจนถึงอำเภอศรีสวัสดิ์ ต้องขับด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะช่วงหัวค่ำและเช้ามืด และขอให้สังเกตหากพบป้ายเตือนให้ระวังช้างป่าขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกิดขึ้นในช่วงเช้าเวลา 07.40 น. ถือว่าสว่างแล้วคนขับรถยนต์กระบะน่าจะมองเห็นช้าง แต่อาจเป็นเพราะขับด้วยความเร็วสูงจึงพุ่งชนโดยที่ไม่ได้เหยียบเบรก ขอให้ทุกคนขับรถด้วยความระมัดระวัง