ปลายปีที่ผ่านมา ลูกช้างป่า “ฟ้าใส” (ที่จากไปแล้ว) ต้องกลายเป็นลูกช้างพลัดหลงโขลง ด้วยสาเหตุติดบ่วงแร้วและถูกยิง ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ม.ค.65 เจ้าหน้าที่สังกัด สบอ.2 (ศรีราชา) สนธิกำลังออกลาดตระเวนป้องกันภัยคุกคามในพื้นที่ พบซากกระทิงติดบ่วงดักสัตว์
ด้านกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช วอนผ่านสื่อ “หยุดกับดักสัตว์ป่า” ซึ่งนอกจากทำผิดกฎหมาย มีโทษหนักทั้งจำและปรับ บ่อยครั้งก็ทำให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนได้รับบาดเจ็บด้วย (ชมคลิป)
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่า (เขายายดา) ลาดตระเวนเชิงคุณภาพเมื่อมาถึงบ้านคลองหิน ม.1 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากสัตว์ป่า จึงกระจายกำลังค้นหา จนพบซากกระทิง หรือเมย (Bos gaurus) จำนวน 1 ซาก ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 4 ตามทะเบียนแสดงบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ประกาศกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546
ต่อมาจึงได้ประสานสัตวแพทย์ประจำ สบอ.2 เพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตของกระทิงตัวดังกล่าว จากการตรวจพิสูจน์พบเป็นซากกระทิง เพศเมีย อายุประมาณ 15-20 ปี ตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 15-20 วัน ตรวจสอบตามลำตัว หัว ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยกระสุนปืนใดๆ ผิวหนังแห้งติดกระดูก มีฝูงแมลงวันตอม และพบเชือกบ่วงไนลอนรัดบริเวณขาหน้าซ้าย ปลายเชือกอีกด้านผูกยึดติดกับต้นไม้ สันนิษฐานว่าเป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิต เนื่องจากการขาดน้ำและอาหารติดต่อกันหลายวัน
จากตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบ พบบ่วงแร้วเชือกไนลอน ขนาด 4 หุน ยาว 3 ม. จำนวน 32 เส้น และหมุดเหล็กยึดบ่วงแร้ว ขนาด 3 หุน ยาว 40 ซม. จำนวน 66 อัน ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวโดยกาาวางบ่วงแร้ว ซึ่งส่งผลให้กระทิงเสียชีวิตในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการล่าสัตว์ป่า โดยเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภายในเขต อช.เขาชะเมา-เขาวง มีความผิดดังนี้
1. ฐาน “ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการทั้งปวง” ตาม ม.19 (3) ประกอบ ม.43 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ” ตาม ม.19 (6) ประกอบ ม.44 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ฐาน “นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม ม.19 (7) ประกอบ ม.45 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
4. ฐาน “เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม ม.20 ประกอบ ม.47 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
สำหรับซากกระทิงได้ร่วมกันลงความเห็นว่า หากทิ้งซากสัตว์ป่าไว้นาน อาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและไม่สามารถเก็บรักษาไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบคดีได้ จึงเห็นสมควรให้ทำลายซากสัตว์ป่าตามหลักวิชาการ ด้วยการฝังกลบซากบริเวณสถานที่ปลอดภัยจากการแพร่เชื้อ ภายในเขต อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง
เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึก นำเรื่องราวและอุปกรณ์ของกลางในการกระทำผิด กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาชะเมา อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานความผิดดังกล่าวข้างต้นต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 ศรีราชา
ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
