กาญจนบุรี - สัญญาณดี! ช้างป่าสลักพระถูกกระบะชนขาหักกินยาแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ยัดใส่ผลไม้นำไปวางไว้ 2 จุด เผยต้องติดตามอยู่ห่างๆ เหตุนิสัยดุ
กรณีช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนได้รับบาดเจ็บขาหน้าด้านขวาหัก หลังเกิดเหตุช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินโขยกหนีเข้าไปในผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเช้าวันที่ 9 ม.ค.65
วันเดียวกัน นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พร้อมด้วย น.ส.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ น.ส.กนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รวมกว่า 10 นาย ได้ออกติดตามหาเพื่อวางแผนในการรักษาอาการบาดเจ็บของช้างป่าตัวดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (10 ม.ค.) นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า "สัตวแพทย์ได้วางแผนในการรักษาช้างป่าด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ amoxicillin + clavulanic acid ครั้งละ 20 เม็ด และยาลดการอักเสบ iblrofen ครั้งละ 35 เม็ด ยัดใส่เข้าไปในกล้วยและสับปะรดเพื่อให้ช้างได้กิน โดยนำไปวางไว้ทั้งหมด 2 จุด จุดแรกบริเวณบ่อน้ำเจดีย์พุขนาย และบริเวณป่าหัวพุขนายที่อยู่ห่างจากกันประมาณ 1 กิโลเมตร จากการตรวจสอบผลปรากฏว่า ช้างได้ไปกินยาแล้วที่ป่าพุขนาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้คอยติดตามดูพฤติการณ์ของช้างตลอดเวลา แต่ต้องอยู่ห่างๆ เนื่องจากช้างป่าตัวดังกล่าวนั้นมีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นช้างเพศผู้ หรือเพศเมีย อายุประมาณ 10-15 ปี น้ำหนักมากถึง 6 ตัน ซึ่งถือว่าเป็น 1 ในช้างป่าสลักพระที่ตัวใหญ่ที่สุดตัวหนึ่ง" นายไพฑูรย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 5 กย 7763 กรุงเทพ ที่พุ่งชนช้างป่าในครั้งนี้ มีนายชานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาว ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ ส่วนผู้ที่มาด้วยกันเป็นหญิง 2 คน ประกอบด้วย น.ส.วราพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี และ น.ส.ธนกมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี