ลำปาง - สิงห์รถบรรทุกหนุ่มบุรีรัมย์รีบบึ่งรถจากเชียงรายเข้าพบ พงส.โรงพักเมืองลำปาง หลัง ตร.โทร.แจ้งขับรถทับคนตาย-ลากศพครูดถนนจนร่างเละ ชิ้นส่วนอวัยวะกระจายเป็นทางยาวนับร้อยเมตร ตั้งแต่แยกไฟแดงป่าขาม-หน้าอนุสาวรีย์พ่อเจ้าทิพย์ช้าง
ความคืบหน้ากรณีพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ตกเกลื่อนถนนสายลำปาง-งาว บริเวณแยกป่าขาม เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 4 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร และห่างไปอีก 100 เมตร บริเวณฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์พ่อเจ้าทิพย์ช้างยังพบเศษชิ้นส่วนหัว-ลำตัว ที่เละจนไม่สามารถดูออกได้ว่าเป็นใคร รวมถึงชิ้นส่วนแขนข้างซ้ายที่ผูกสายสิญจน์ไว้ด้วย ซึ่งดูตามลักษณะมือแล้วเป็นลักษณะของเพศชาย อายุประมาณ 40-50 ปี
จากการสอบถามเบื้องต้นคาดว่าศพดังกล่าวน่าจะเป็นชายอายุประมาณ 40-50 ปี ซึ่งอาจจะถูกรถบรรทุกชนแล้วลากศพครูดไปตามพื้นถนน ก่อนที่รถคันก่อเหตุจะขับไปทางสี่แยกค่ายสุรศักดิ์มนตรี
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง จนทราบว่ารถบรทุกคันดังกล่าวเป็นของนายอำนวย มาดวงศ์ อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ และได้โทรศัพท์ติดต่อนายอำนวย พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พาน จ.เชียงราย เข้าตรวจสอบ พบว่านายอำนวยอยู่ระหว่างนำอาหารสัตว์ที่บรรทุกมาจากจังหวัดลำพูนลงจากรถไว้ในโกดัง และไม่ทราบว่ารถชนคนตายเช่นกัน
กระทั่งลงของเรียบร้อยแล้ว นายอำนวยจึงได้ตีรถจากเชียงรายเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปางเมื่อเวลา 19.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปางได้เข้าตรวจสอบสภาพรถก็พบว่าทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิม และมีคราบเลือดอยู่ระหว่างล้อรถตัวพ่วงเพียงล้อเดียว ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่ทับร่างผู้เสียชีวิตและล้อรถก็วิ่งต่อไปทำให้ร่างถูกฉีกและกระเด็นออกจากล้อไปตามถนนดังกล่าว
ขณะที่นายอำนวยยังคงยืนยันว่าตนเองไม่ทราบเลยว่ารถทับคนจนเสียชีวิต เพราะขณะจอดติดไฟแดงก็มีเพียงรถยนต์จอดขนาบด้านข้าง เมื่อสัญญาณไฟเขียวก็ออกรถ และไม่มีความรู้สึกอะไร เนื่องจากรถบรรทุกของหนัก 20-30 ตัน รวมทั้งเป็นตัวพ่วงจึงไม่สามารถรู้สึกใดๆ ตนจึงขับไปเรื่อยๆ และไปจอดไฟแดงหน้าค่ายสุรศักดิ์มนตรีด้วยก่อนขับต่อไป
กระทั่งลงของที่อำเภอพาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปบอกว่าตนขับรถทับคน ก็ตกใจมาก เพราะไม่รู้ว่าไปชนตรงไหน และประกอบกับ จนท.ตร.สภ.พานได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณส่วนหัวรถก็ไม่พบร่องรอย จึงถามหาพ่วงซึ่งขณะนั้นได้แยกส่วนลงของในโกดัง เมื่อลงของเสร็จจึงตรวจดูรอบๆ ถึงพบว่าที่ล้อมีรอยเลือด จึงได้ขับรถบรรทุก 22 ล้อ ทะเบียน 70-9050 เชียงราย กลับมาแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง
“ตอนจอดไฟแดงผมก็ไม่เห็นคน เห็นแต่รถที่จอดด้านข้าง เมื่อรถออกตัวก็ขับไปเรื่อยๆ ไม่มีใครเรียกและไม่เห็นคนอยู่ข้างรถ พอมาเห็นคราบเลือดที่ล้อรถก็ยังคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าไปทับคนที่ไหน ซึ่งผมคิดว่าผู้เสียชีวิตอาจจะเมาและเดินข้ามถนนหรือไม่ก็ตั้งใจกระโดดหารถฆ่าตัวตาย”
หลังจากตรวจสอบรถแล้วทางพนักงานสอบสวนได้ให้เป่าแอลกอฮอล์ ซึ่งก็พบว่าปกติ และได้สอบถามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม และในวันนี้ (6 ม.ค. 65) จนท.ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะได้เข้ามาตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดและไปจำลองภาพเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุอีกครั้ง
พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปางเปิดเผยด้วยว่าทางโรงพยาบาลอยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ซึ่งบริเวณนิ้วยังสามารถที่จะหาลายนิ้วมือได้ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะได้ติดตามหาญาติมารับศพที่เหลือต่อไป
