นครสวรรค์ - ตำรวจบรรพตพิสัยตั้งรางวัล 10,000 บาท ล่าคนร้ายงัดห้อง USO โรงเรียนซ้ำ 2 รอบ หลังคนโพสต์ร้องทุกข์ผ่านเพจดัง ระบุยุค 5G มีภาพวงจรปิดเห็นโจรจัญไรกวาดทั้งโน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ทีวีเครื่องใหญ่ ชัดเจน ผ่านมาเดือนกว่ายังจับไม่ได้
หลังจากโรงเรียนบ้านน้ำหนองเขียว ต.ท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ถูกคนร้ายเข้าไปงัดทรัพย์สินภายในโรงเรียนถึง 2 ครั้ง ครั้งแรก 19 พ.ย.64 ครั้งที่ 2 เมื่อ 1 ม.ค.65 แต่จนป่านนี้ตำรวจยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทั้งที่ผู้เกี่ยวข้องได้นำหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดไปแจ้งความไว้แล้ว ทำให้มีผู้นำคลิปส่งไปร้องเรียนต่อเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3”
เพจดังกล่าวได้ระบุข้อความไว้ที่โพสต์ด้วยว่า #ทุกข์ชาวบ้าน จนท.น่าจะกำลังตามล่าตัว ถ้าคนร้ายไม่อยู่ในพื้นที่หรือไม่มีประวัติอาจใช้เวลาหน่อย แต่ยังไงก็ไม่พ้นฝีมือ จนท.แน่นอน
พร้อมระบุข้อความว่า..ช่วยด้วยค่ะ คนร้ายเข้าลักขโมยทรัพย์สิน 2 ครั้ง ในโรงเรียนบ้านน้ำหนองเขียว ต.ท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เดือนกว่ายังจับคนร้ายไม่ได้ค่ะ โชคร้ายเดือดร้อนเพราะโจรจัญไรขโมยทรัพย์สิน แจ้งความ ทำทุกอย่างตามขั้นตอน แต่ตำรวจคงงานยุ่งมากหาคนร้ายไม่เจอ ทำให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก 2 ครั้ง ที่เดิม ประเทศไทยมีกล้อง CCTV ทำไมจับโจรจัญไรไม่ได้ รูปก็ส่งตำรวจและวิดีโอก็ส่งให้ ตำรวจยังทำอะไรไม่ได้ "ยุค 5G" ก็เท่านั้น ความเดือดร้อนของประชาชน โปรดจับคนร้ายให้ด้วยค่ะ..
"อยากจะด่าว่าไอ้โจรเหี้..จัญไรเสียชาติเกิดเป็นคนก็ไม่กล้าด่า เพราะดิฉันเป็นคนเรียบร้อย..คนกลุ่มหนึ่งทุ่มเททำงานหนักเหนื่อยแสนสาหัสเพื่อทำโครงการฯ เปิดบริการให้ประชาชนและเด็กๆ ในชนบท ในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรี ทุ่มเทแรงกายและกำลังใจขนาดไหนกับโครงการที่ตั้งขึ้นมา เพื่อยกระดับความรู้และความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ที่ยังขาดแคลนให้มีโอกาส..
ใครที่ขโมยของที่สร้างทำขึ้นมาด้วยหัวใจของคนบริสุทธิ์ที่ตั้งใจให้งานนี้ส่งผลพัฒนาประเทศเพื่อตอบแทนคืนผืนแผ่นดินไทยที่มีองค์พระสยามเทวาธิราชคอยปกปักรักษา ขอมันผู้นั้นให้มีอันเป็นไป..
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำหนองเขียว ว่า วันนี้ (5 ม.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบในพื้นที่ได้นัดหมายจะเดินทางมาประชุมที่โรงเรียนร่วมกับสำนักงานเขตการศึกษาในพื้นที่ เรื่องหาแนวทางป้องกันเหตุโจรกรรม เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน
ผู้อำนวยการโรงเรียนยังระบุด้วยว่า ตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการเผยแพร่ว่าถูกโจรเข้ามาขโมยของในโรงเรียนนั้น เป็นห้องศูนย์บริการ USO ในโครงการของ กสทช. ซึ่งคนร้ายได้ก่อเหตุเข้าไปงัดห้องถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 คนร้ายได้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเจ้าหน้าที่ดูแลห้องไป 1 เครื่อง ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 คนร้ายสามารถลักทีวี 1 เครื่อง และคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะไปได้ถึง 3 เครื่อง
ด้าน พ.ต.ท.ปภาวิน ห้องพ่วง รอง ผกก.ป.สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า เหตุลักทรัพย์ที่โรงเรียนบ้านน้ำหนองเขียว ทางตำรวจได้รับแจ้งความแล้ว พบว่าครั้งแรกของที่สูญหายไปเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ประจำห้องของ กสทช.ที่ไม่ได้เป็นบุคลากรของโรงเรียน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจกล้องวงจรปิด พร้อมกับมีการไปตรวจสอบตามร้านรับจำนำต่างๆ โดยมีการถ่ายรูปโน้ตบุ๊กที่ถูกจำนำในช่วงหลังเกิดเหตุมาให้ผู้เสียหายดูหมดแล้ว แต่ผู้เสียหายจำยี่ห้อของโน้ตบุ๊ก รุ่นเครื่องไม่ได้ จึงยังไม่สามารถยืนยันทรัพย์สินของตนเองได้
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานให้เข้ามาเก็บรอยนิ้วมือแฝงแล้ว พร้อมกับเชิญตัวผู้ต้องสงสัยที่มีรูปพรรณใกล้เคียงกับคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิดมาพิมพ์ลายนิ้วมือส่งตรวจเปรียบเทียบกับรอยในจุดเกิดเหตุ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรอผลการเปรียบเทียบ
ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นครั้งที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะหลังจากรับแจ้งความก็ได้ดำเนินการทันที แต่ติดอยู่ตรงที่ต้องใช้กล้องวงจรปิดของทาง อบต.ท่างิ้ว ในการตรวจสอบเส้นทางหลบหนี แต่อยู่ในช่วงของวันหยุดยาวปีใหม่พอดีจึงยังตรวจสอบไม่ได้ จนกระทั่งวันที่ 4 ม.ค.65 อบต.เปิดทำการจึงได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด
ขณะนี้ทราบว่าคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่คนร้ายได้ไปทั้ง 3 เครื่องนั้นมีตัวจับสัญญาณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่ โดยพบว่าหลังจากถูกขโมยไปคนร้ายได้นำไปใช้แล้วครั้งหนึ่ง และวันที่ 4 ม.ค.มีการนำมาเปิดเครื่องใช้อีกครั้ง ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ตกับเครือข่ายเพื่อระบุพิกัดสัญญาณที่คนร้ายใช้เปิดเครื่องใช้งาน จึงต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนอีกระยะ
พ.ต.ท.ปภาวิน ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขอติงไปยังผู้ที่นำคลิปภาพกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่ตามโลกโซเชียลด้วยว่า ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้คนร้ายไหวตัวหลบหนี และอาจไปทำลายหลักฐานจนทำให้เสียรูปคดี ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานหนักขึ้น
ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากทราบเบาะแสของคนร้ายรายนี้ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย ซึ่งหากนำไปสู่การจับกุมตัวได้สำเร็จ ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจจะแจกเป็นเงินสดให้ผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การนำจับ จำนวน 10,000 บาท