ศูนย์ข่าวศรีราชา - สถานบันเทิงพัทยาทำใจถูกเลื่อนเปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนดหลังโควิด-19 ระบาดหนัก ชี้เหตุไปไม่ถึงฝันทั้งที่เตรียมความพร้อมเปิดบริการอีกครั้ง 15 ม.ค.นี้ เพราะความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการบางราย
จากกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนว่าจำเป็นต้องเลื่อนการอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงจากเดิมในเดือน ม.ค.2565 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังพบการระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายคลัสเตอร์ ซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดจากการละเมิดกฎหมายของกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัว โดยเฉพาะร้านอาหารกึ่งผับที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting นั้น
วันนี้ (5 ธ.ค.) นายดำรงเกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว หลังเมืองพัทยา และ อ.บางละมุง เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 เช่นกัน ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มผู้ให้บริการประเภทสถานบริการผับกึ่งเรสเตอรองต์ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ การเรียกร้องให้มีการเปิดสถานบันเทิงอีกครั้งภายในวันที่ 15 ม.ค.65 ของผู้ประกอบการสถานบันเทิง และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องคือความหวังที่ผู้ประกอบการรอคอย แต่เมื่อเกิดเรื่องเกี่ยวกับการไม่ทำตามกฎระเบียบหรือกติกา ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงต้องทำใจยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“ปัญหานี้เกิดจากผู้ประกอบการบางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่ให้ความร่วมมือและไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ วันนี้จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ประกอบการมองถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และอย่ามองแต่เรื่องส่วนตัวในการประกอบธุรกิจ เพราะเมื่อเกิดการแพร่ระบาดแล้วย่อมส่งผลกระทบในวงกว้าง”
และจากนี้ไปทุกสถานประกอบการจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ให้พนักงานและผู้ที่เข้ามาใช้บริการทุกครั้งและทุกวัน ส่วนสถานประกอบการที่ยังไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดนับจากนี้รัฐคงต้องใช้กฎหมายเข้าจัดการอย่างเด็ดขาด และหากตรวจพบขอให้ออกคำสั่งปิดในทันที
นายดำรงเกียรติ ยังเผยอีกว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการสถานบันเทิงในเมืองพัทยา ได้เตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 15 ม.ค.นี้ ด้วยการเรียกตัวพนักงานให้กลับเข้ามาทำงานและได้เตรียมเงินทุนสำหรับเปิดบริการครั้งใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในเมืองพัทยา และ อ.บางละมุง ผู้ประกอบการสถานบันเทิงขนาดใหญ่ได้มีการพูดคุยและเผื่อใจไว้แล้ว
ทั้งนี้ หากยังมีปัญหาการแพร่ระบาดอยู่เช่นนี้ผู้ประกอบการคงไม่ฝืนเปิดให้บริการแน่นอนเพราะคงไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการ และคงจะรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่อน ซึ่งในอนาคตหากสถานบันเทิงขนาดใหญ่ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งคงจะต้องมีการปรับโมเดลการให้บริการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยเฉพาะมาตรการที่เข้มข้นในการตรวจคัดกรองผู้ที่มาใช้บริการร่วมกัน
พร้อมจัดหาทีมตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ได้มาตรฐาน ถูกหลักสาธารณสุข และจัดทำแอปพลิเคชันกลางให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงสำหรับคัดกรองผู้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งแม้ขณะนี้สถานบันเทิงขนาดใหญ่จะยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ แต่จะได้มีการผลักดันให้สถานประกอบการขนาดเล็กเปิดให้บริการไปก่อนเพื่อเป็นไปตามขั้นตอนจากเล็กไปใหญ่
“วันนี้เมื่อเกิดสถานการณ์ระบาดในร้านอาหารกึ่งผับยอมรับว่าเสียใจ เพราะผู้ประกอบการกิจการถูกปิดมานานกว่า 2 ปีแล้ว อยากทำมาหากินกันบ้างเพื่อให้พนักงานได้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว สุดท้ายต้องถูกเลื่อนเพราะความเห็นแก่ตัวผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายเท่านั้น” นายดำรงเกียรติ กล่าว