บุรีรัมย์ - ญาติและหน่วยกู้ภัยเปลี่ยนพิกัดใหม่ค้นหาหนุ่มบุรีรัมย์หายลึกลับตามคำทำนายหมอดู พบผ้าห่มผูกเป็นเปลนอน ซองขนม ขวดน้ำในป่าแต่ไม่รู้ของใคร พ่อแม่วอนหมอปลาเข้ามาช่วยเหลืออีกทางหวังลูกยังมีชีวิต เชื่อหนุ่มคู่ขายังปิดบังขอให้พูดความจริง ขณะ ตร.กองปราบฯ รุดลงพื้นที่เค้นสอบคู่ขาหนัก
วันนี้ (17 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของ นายณัฎฐกรณ์ ฉนำกลาง หรือต่อ อายุ 38 ปี ชาว ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2564 กระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. 2564 ได้มีชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดบนเขาอังคารเจอรถจักรยานยนต์ของนายต่อจอดทิ้งไว้ในป่าเขาอังคาร ด้านทิศตะวันตกของบ้านเจริญสุข ห่างจากหมู่บ้านราว 2 กิโลเมตร แต่กลับไม่พบตัวนายต่อ และญาติแจ้งความไว้ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลเบาะแส และหลักฐานหลายอย่างที่มีเงื่อนงำซ้อนเร้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มเพื่อนของผู้สูญหาย ซึ่งเป็นกลุ่มเกย์หรือกลุ่มชายรักชาย ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ แม้เจ้าหน้าที่บางส่วนจะยุติการค้นหานายต่อชั่วคราวเพราะค้นหาติดต่อกันหลายวันจนเหนื่อยล้าและยังไม่พบร่องรอยอะไร ประกอบกับรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนหาเบาะแสและหลักฐานเพิ่มเติมก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลและพิกัดในการค้นหาที่แน่ชัดมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ญาติผู้สูญหาย พร้อมทั้งหน่วยกู้ภัยฮุก 31 และกู้ภัยสว่างจุดละหานทรายกว่า 50 คน ได้เปลี่ยนพิกัดในการค้นหาจากพื้นที่เขาอังคาร เป็นบริเวณป่าใกล้กับหนองน้ำละหานทราย บ้านหนองละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ตามคำทำนายของหมอดู ซึ่งก่อนจะทำการออกเดินเท้าค้นหาก็ได้มีการจุดธูปเทียนบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางตามความเชื่อ ทั้งเพื่อขอให้เปิดทางให้เจอนายต่อด้วย ซึ่งจากการเดินเท้าค้นหาประมาณ 2 ชั่วโมง พบมีการนำผ้าห่มมาผูกติดกับต้นไม้ทำเป็นแปลนอนที่บริเวณป่าริมหนองละหานทราย ทั้งยังมีซองขนมขบเคี้ยวที่แกะกินไปแล้ว และขวดน้ำดื่มที่มีการเปิดดื่มไปแล้ว ทิ้งไว้ใกล้กับต้นไม้ที่ใช้ผ้าห่มผูกเปลนอนด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาทำการตรวจสอบว่าเป็นของใคร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปราม ได้ลงพื้นที่มาร่วมภารกิจการสืบสวนและค้นหาบุคคลสูญหายด้วย โดยได้มีการเรียกนายเต่ามาทำการเค้นสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะนายเต่าคือคนที่อยู่กับนายต่อเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา
ด้าน นายชวน และนางประภาดา ฉนำกลาง บอกว่า แม้ลูกชายจะหายตัวไปอย่างเป็นปริศนานานกว่า 10 วันแล้ว และการค้นหาไม่พบร่องรอยอะไร แต่พ่อกับแม่ก็ยังมีความหวังว่าจะได้เจอลูก และหากเป็นไปได้อยากให้เจ้าหน้าที่นำสุนัขดมกลิ่นมาช่วยหาอีกทาง และอยากจะให้หมอปลามาช่วยตามหาลูกด้วยเพราะเห็นหมอปลาเคยช่วยเหลือมาหลายกรณี เพราะตอนนี้ครอบครัวมืดแปดด้านไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว หากวิธีไหนที่พอจะหาลูกชายเจอก็อยากจะลองทำดู และส่วนตัวเชื่อว่าเพื่อนชายคนสนิทยังไม่ให้ข้อมูลทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่ จึงอยากขอร้องให้พูดความจริง เพราะหลังจากวันที่ลูกชายหายตัวไปนายเต่ามาที่บ้านมาร้องไห้บอกว่าต่อหายไปไหนไม่รู้ ก่อนที่จะมาเจอรถ จักรยานยนต์จอดในป่าเขาอังคาร แต่หลังจากวันนั้นนายเต่าไม่เคยมาที่บ้านอีกเลย
