เปิดแชตสุดท้าย! หนุ่มหายตัวลึกลับ จ่อเอาผิด จนท.รพ.สต.ฉีดไอซ์ให้กลุ่มเกย์ ตร.เชื่อมีเงื่อนงำอำพราง

บุรีรัมย์ - เผยแชตสุดท้ายหนุ่มบุรีรัมย์หายตัวลึกลับนาน 12 วัน โพสต์ “gigi” พร้อมบทสนทนากับ “หมอต่อ” จนท.รพ.สต.นัดฉีดยาไอซ์ให้กลุ่มเกย์ก่อนมีเซ็กซ์ ต้นสังกัดจ่อเอาผิด ขณะ ตร.วางแผนสืบสวนสอบสวนหาเบาะแสเพิ่มพร้อมเรียกสอบกลุ่มเกย์ที่เกี่ยวข้อง เชื่อมีเงื่อนงำอำพรางไม่ใช่หายตัวธรรมดา พบพิรุธ “นายเต่า” คู่ขาให้การวกวน

วันนี้ (15 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของ นายณัฎฐกรณ์ ฉนำกลาง หรือต่อ อายุ 38 ปี ชาว ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2564 กระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. 2564 ได้มีชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดบนเขาอังคารเจอรถจักรยานยนต์ของนายต่อจอดทิ้งไว้ในป่าเขาอังคารด้านทิศตะวันตกของบ้านเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ ห่างจากหมู่บ้านราว 2 กิโลเมตร แต่กลับไม่พบตัวนายต่อ วันนี้เข้าสู่วันที่ 12 แล้ว ซึ่งกรณีนี้อาจไม่ใช่แค่การหายตัวไปธรรมดา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเบาะแส และหลักฐานต่างๆ รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อม และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กลับพบเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น


โดยเฉพาะการให้ข้อมูลของ นายเต่า อายุ 34 ปี ชาว ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ คู่ขาหรือชายคนสนิทของนายต่อที่หายตัวไป ไม่ตรงกับเบาะแสและหลักฐานที่ตำรวจได้มา และยังพบกรณีที่น่าตกใจคือมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มชายรักชายเป็นคนฉีดยาไอซ์ซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง เข้าในเส้นเลือดให้แก่กลุ่มเกย์ก่อนมีเพศสัมพันธ์หมู่ หรือที่เรียกว่า “สวิงกิ้ง” เพื่อต้องการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก่อนจะมีเซ็กซ์กัน กรณีดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบของทางต้นสังกัด หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงต้องถูกลงโทษทั้งวินัยและกฎหมาย

ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติก็ได้มีการวางแผนการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม พร้อมทั้งได้มีการเรียกสอบกลุ่มเกย์ หรือชายรักชายที่ถูกระบุถึงทุกคนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายต่อหรือไม่ เพราะจากหลักฐานที่ได้มาเชื่อว่าไม่ใช่การหายตัวไปปกติ แต่อาจจะมีการอำพรางอะไรบางอย่าง


วันนี้เจ้าหน้าที่เริ่มทยอยสอบปากคำบุคคลที่ใกล้ชิดนายเต่า คู่ขาของนายต่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะวางแผนการสืบสวนตามข้อมูลที่ได้มาเพราะนายเต่าให้การวกไปวนมา จากนั้นจะมีการนำชุดประดาน้ำไปค้นหาที่สระน้ำ จุดที่พบรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้

จากการสอบถาม นายเหน่ อายุ 44 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ หนึ่งในกลุ่มชายรักชายที่เข้าให้ข้อมูลแก่ตำรวจ ยอมรับว่าตนอยู่ในกลุ่มชายรักชายจริง แต่ไม่เคยเห็นหรือรู้จักกับนายต่อที่หายตัวไป แต่รู้จักนายเต่า ที่เป็นคู่ขากับนายต่อ โดยเมื่อวันอังคารที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. ตนไปเปิดรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ ก็นอนคุยกันเล่นตามประสาเพื่อน ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับนายต่อคนที่หายตัว แต่รู้จักกับหมอต่อที่อยู่ รพ.สต. แต่ไม่เคยรู้เรื่องที่เขาไปฉีดยาไอซ์ให้ใครเพราะเราจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองไม่รู้เรื่องการหายตัวไปของนายต่อ


จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กของนายต่อ พบว่ามีการโพสต์ข้อความสุดท้ายในวันที่ 5 ธ.ค. 2564 ก่อนจะหายตัวไป โดยข้อความที่โพสต์คือคำว่า “gigi” แต่ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของทางตำรวจพบว่า นายต่อ มีการสนทนากับ "หมอต่อ" เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ เกี่ยวกับการนัดฉีดยาไอซ์ให้กลุ่มชายรักชายด้วย ซึ่งตำรวจจะเรียกตัวหมอต่อมาสอบปากคำด้วย


นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ลงพื้นที่แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่านายต่อจะขับรถผ่านเพื่อตรวจสอบไทม์ไลน์ของนายต่อ ว่าไปไหนบ้างก่อนจะหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา พบว่าเมื่อเวลา
02.02 น. วันที่ 5 ธ.ค. 2564 มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับตามกันมุ่งหน้าไปทาง อ.นางรอง คันแรกเป็น จยย.นายต่อ ขับซ้อนนายเต่า คันที่สองเป็น จยย.ของชายอีกคนตรวจสอบพบเป็นคน อ.โนนสุวรรณ ขับตามหลัง มีเป้าหมายอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.โนนสุวรรณ จากนั้นเวลา 08.55 น. วันที่ 5 ธ.ค. 2564 จยย. ทั้ง 2 คัน ขับจาก อ.นางรอง มุ่งหน้าไปบ้านโคกว่าน อ.ละหานทราย บ้านนายต่อ ซึ่งจากภาพวงจรปิดไม่ตรงกับไทม์ไลน์ที่นายต่อ เพื่อนชายคนสนิทให้ข้อมูลกับตำรวจ

ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้เก็บ DNA ของ นายเต่า เพื่อหาเบาะแสและความเชื่อมโยงในการหายตัวไปอย่างปริศนาของนายต่อด้วย