บุรีรัมย์ - ตำรวจภูธรภาค 3 ส่งชุดสืบร่วมชุดสืบจังหวัดบุรีรัมย์และ สภ.เฉลิมพระเกียรติลงพื้นที่คลี่ปมหนุ่มบุรีรัมย์วัย 38 หายตัวลึกลับกว่า 10 วัน ระดมชุดประดาน้ำงมค้นหาในสระบนเขาอังคารยังไร้วี่แวว ด้านชายคู่ขาผู้ต้องสงสัยท้าดื่มน้ำสาบาน ยันบริสุทธิ์ไม่ได้ทำร้าย เผยไปดูหมอเชื่อยังมีชีวิต
วันนี้ (16 ธ.ค.) จากกรณีการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของ นายณัฎฐกรณ์ ฉนำกลาง หรือต่อ อายุ 38 ปี ชาว ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2564 กระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. 2564 ได้มีชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดบนเขาอังคารเจอรถจักรยานยนต์ของนายต่อจอดทิ้งไว้ในป่าเขาอังคารด้านทิศตะวันตกของบ้านเจริญสุข ห่างจากหมู่บ้านราว 2 กิโลเมตร แต่กลับไม่พบตัวนายต่อ และญาติได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลเบาะแสและหลักฐานหลายอย่างที่มีเงื่อนงำและซับซ้อน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลของนายเต่า คู่ขาหรือชายคนสนิทของนายต่อที่หายตัวไป ไม่ตรงกับเบาะแสและหลักฐานที่ตำรวจพบ และยังมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มชายรักชายเป็นคนฉีดไอซ์ซึ่งเป็นสารเสพติดให้กลุ่มเกย์ก่อนมีกิจกรรมทางเพศด้วย และวันนี้เป็นวันที่ 13 แล้วที่นายต่อหายตัวออกจากบ้านนั้น
ล่าสุดวันนี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ส่งตำรวจชุดสืบสวนภาคลงพื้นที่ สนธิกำลังกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ร่วมคลี่คลายปมนายต่อที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา โดยได้มีการประชุมวางแผนก่อนกระจายกันลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสและหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้มีเพียงข้อมูลจากการสอบปากคำเพื่อนชายคนสนิท ญาติ และพยานแวดล้อม รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่นายต่อขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรีสอร์ตกับเพื่อนชายคนสนิทก่อนจะหายตัวไปเท่านั้น ทั้งนี้ยังได้เรียกตัวนายเต่า เพื่อนชายคนสนิทที่อยู่กับนายต่อเป็นคนสุดท้าย มาสอบปากคำที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติเป็นครั้งที่ 4
นอกจากนั้นยังได้ประสานชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยสว่างประจำจุดเฉลิมพระเกียรติ และกู้ภัยบ้านกรวด กว่า 50 นาย ร่วมในการงมค้นหาทางน้ำตามสระที่อยู่บนเขาอังคาร ซึ่งหลังจากค้นหาไปแล้ว 4 สระใกล้บริเวณที่พบรถจักรยานยนต์ของนายต่อจอดทิ้งเอาไว้ ยังไม่พบร่างหรือร่องรอยอะไรเลย แต่เพื่อความสบายใจของญาติ ได้ร้องขอให้ชุดประดาน้ำงมค้นหาในสระบนเขาอังคารที่อยู่ใกล้เคียงต่ออีกเป็นวันที่สองแต่ก็ยังไม่พบอะไร
ขณะที่ นายชวน ฉนำกลาง พ่อของนายต่อ มาเฝ้าติดตามการค้นหาลูกชายอย่างใจจดใจจ่อ โดยบอกว่า ถึงแม้ว่าลูกจะหายไปกว่า 10 วันแล้ว แต่หัวอกคนเป็นพ่อยังมีความหวังว่าจะเจอลูกชายแบบมีชีวิต ยังอยากให้เจ้าหน้าที่ค้นหาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะบนบกหรือในน้ำ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเจอลูกในสภาพไหนก็รับได้
ด้าน นายเต่า อายุ 34 ปี ชาว ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เพื่อนชายคนสนิทของนายต่อ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวมาสอบสวนเป็นครั้งที่ 4 แล้ว บอกว่า ส่วนตัวก็กังวลที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะอยู่กับต่อเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป คงไม่มีคนอื่นที่เขาจะสงสัยไปมากกว่านี้ ซึ่งตนก็จะต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้ว่าต่อขี่รถออกมาจากบ้านของตนเองช่วงไหนวันไหนก่อนที่จะหายตัวไป แต่ยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ไม่ได้ทำร้ายต่ออย่างแน่นอน จะให้ตนไปดื่มน้ำสาบานที่วัดไหนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ก็ได้
ส่วนข้อความในเฟซบุ๊กที่ต่อโพสต์วันสุดท้ายก่อนหายตัวไป คำว่า “gjgj” น่าจะเป็นช่วงที่ตนเองทะเลาะกับต่อแล้วมืออาจจะไปโดนมากกว่า ส่วนเรื่องที่ฉีดไอซ์เข้าเส้นเลือดที่รีสอร์ตนั้นยอมรับว่ามีการฉีดจริงและตนฉีดคนเดียวแต่วันนั้นฉีดไม่เข้า จึงได้ชวนต่อกลับบ้านแต่ต่อเหมือนจะไม่อยากกลับ ตนจึงเดินออกมารอข้างนอกแล้วต่อค่อยตามออกมา ซึ่งตอนที่อยู่รีสอร์ตไม่ได้ทะเลาะกันแต่กลับมาทะเลาะกันที่บ้านตัวเอง และเป็นวันที่ 5 ธ.ค.ที่ทะเลาะกัน ไม่ใช่วันที่ 6 ธ.ค.ตามที่ตนให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้
สำหรับตนยังเชื่อว่าต่อยังมีชีวิตอยู่ เพราะจากที่ไปดูหมอมาก็บอกว่ายังมีชีวิตและอยู่ใกล้ๆ บ้าน ซึ่งหากต่อยังมีชีวิตจริงก็อยากให้กลับบ้านเพราะทุกคนเป็นห่วง และเดือดร้อนมาก นายเต่ากล่าวในตอนท้าย