อุทัยธานี - กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่อุทัยฯ ได้เฮ..“มนัญญา” นำทีมขนเครื่องจักรกล-วัสดุอุปกรณ์ รวมมูลค่ากว่า 80 ล้าน ส่งมอบถึงมือ หนุนยกระดับ เพิ่มศักยภาพการผลิต ลดต้นทุน กระตุ้นเศรษฐกิจยุคโควิด
วันนี้ (17 ธ.ค. 64) น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานีจัดขึ้นที่ อบต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตให้แก่กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ จำนวน 30 แปลง ของอุทัยธานี
สำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรและวัสดุที่มอบแก่กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 83 ล้านบาท เช่น รถแทรกเตอร์ รถเกี่ยวข้าว เครื่องหว่านปุ๋ย เครื่องอัดฟางข้าว เครื่องหยอดข้าว โดรนเพื่อการเกษตร เครื่องสูบน้ำ เครื่องสางใบอ้อย มูลไก่ กากน้ำตาล ตาข่าย พลาสติกคลุมดิน เครื่องพรวนดิน เครื่องปั่นไฟ เครื่องพ่นยา ถุงห่อผลผลิต กล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
หลังจากกลุ่มเกษตรกรรับเครื่องจักรกลดังกล่าวไปแล้ว จะนำไปบริหารจัดการในรูปคณะกรรมการกลุ่มแปลงใหญ่ ทั้งในด้านการให้บริการสมาชิก การบำรุงดูแลรักษา เพื่อให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่า มุ่งยกระดับการผลิตไปสู่สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
นายประเสริฐ วณิชชากรวิวัฒน์ เกษตร จ.อุทัยธานี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 อนุมัติงบประมาณ 83,786,850 บาท ให้จังหวัดอุทัยธานีดำเนินการตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ซึ่งจังหวัดอุทัยธานีได้ดำเนินงานตามโครงการทั้งหมด 30 แปลง เกษตรกร 1,985 ราย งบประมาณรวม 82,873,030 บาท โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นเจ้าของสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ในพื้นที่จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่
1. สำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี จำนวน 23 แปลง เกษตรกร 1,361 ราย จำนวน 9 ชนิดสินค้า ได้แก่ มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สับปะรด ปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลืองฝักสด ทุเรียน มะม่วง และพืชผัก 2. ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวชัยนาท จำนวน 6 แปลง เกษตรกร 588 ราย ชนิดสินค้า ได้แก่ ข้าว และ 3. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 1 แปลง เกษตรกร 36 ราย ชนิดสินค้า ได้แก่ แพะ
กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ทั้ง 30 แปลงได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุครุภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้างตามแผนงานโครงการที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะส่งมอบให้กลุ่มแปลงใหญ่นำไปใช้ประโยชน์ตามแผนการผลิตของกลุ่มต่อไป
ด้าน น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด กระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น ลดผลกระทบจากการหดตัวของภาคเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรของภาครัฐในการลงทุน เพื่อพยุงเศรษฐกิจและเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก
ดังนั้น ครม.จึงมีมติเห็นชอบกรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในด้านต่างๆ หนึ่งในนั้นคือกรอบนโยบายด้านการเกษตร โดยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พัฒนาศักยภาพการผลิต และต่อยอดของเดิมให้ดีขึ้น เน้นการผลิตในรูปแบบเกษตรสมัยใหม่ เกษตรอัจฉริยะ และเกษตรแปลงใหญ่ ที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ และมีการบริหารจัดการที่เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่วางแผนการผลิต การแปรรูป รวมทั้งการตลาด
ตลอดจนการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เป็นการดำเนินงานที่เน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยที่อยู่ใกล้เคียงกัน และมีความพร้อมจะพัฒนาการผลิต และการตลาดร่วมกัน โดยวางระบบการผลิต และการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกันเพื่อประหยัดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
โดยเน้นการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดตามนโยบายตลาดนำการผลิต เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน สร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรได้อย่างมั่นคงในอนาคต และนำหลักเกษตรสมัยใหม่ และเทคโนโลยีการเกษตรที่เหมาะสมมาพัฒนาต่อยอด จะช่วยให้กลุ่มแปลงใหญ่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้ดียิ่งขึ้น กลุ่มแปลงใหญ่มีความเข้มแข็งในการบริหารจัดการกลุ่ม สร้างโอกาสในการเพิ่มคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ส่วนของการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อันเนื่องมาจากภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รัฐบาลได้มีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิต เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อช่วยสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรมีการผลิต และดูแลผลผลิตให้มีคุณภาพดีมีโอกาสขายข้าวในราคาที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
รมช.เกษตรฯ ยังกล่าวต่อด้วยว่า หวังว่าเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ของจังหวัดอุทัยธานีที่ได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร ปัจจัยการผลิตต่างๆ รวมทั้งเงินทุน จะสามารถนำไปใช้ในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ครอบครัว และพัฒนาต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่ ได้ตามเป้าประสงค์ของโครงการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสบผลสำเร็จบรรลุตามเป้าหมาย เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างมั่นคงยั่งยืน
