“บิ๊กตู่” ปลื้มมอบเงินประกันรายได้เกษตรกร ย้ำดูแลต่อเนื่องมีมาตรการคู่ขนาน ธ.ก.ส.จ่อให้เงินโดยตรง

นายกฯ ยินดีประเทศขับเคลื่อนหลายโครงการ ดีใจมอบเงินช่วยเกษตรกรกระดูกสันหลังชาติ ในโครงการประกันรายได้ ดูแลความเดือดร้อนต่อเนื่อง ควบคู่มาตรการคู่ขนาน และ ธ.ก.ส.เตรียมส่งมอบเงินให้โดยตรง ลั่นดูแล 70 ล้านคนให้อยู่ดีกินดี

วันนี้ (9 ธ.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ถึงเรื่อง “ประกันรายได้เกษตรกร” โดยมีเนื้อหาระบุว่า โครงการ “ประกันรายได้เกษตรกร” รักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญ ดูแลเกษตรกรให้มีความมั่นคงทางรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

พี่น้องประชาชนที่รักครับ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ในขณะนี้การขับเคลื่อนประเทศได้กลับมาเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง หลายโครงการก้าวหน้าไปด้วยความราบรื่น และประสบความสำเร็จด้วยดีตามเป้าหมาย ซึ่งสิ่งที่ผมและรัฐบาลนั้นห่วงใยและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือการดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกคน ช่วยเหลือให้อยู่ดีกินดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ดังนั้น ในวันนี้ ผมจึงรู้สึกดีใจที่ได้เดินทางไปเป็นพิธีส่งมอบเงินช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ผู้ที่นับเป็น “กระดูกสันหลังของชาติ” ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ปีการผลิต 2564/65 และมาตรการคู่ขนาน ณ ธ.ก.ส. อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลนี้ได้แถลงต่อรัฐสภา ในการเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562

นับเป็นความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทุกครัวเรือน ที่รัฐบาลมีความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในการสรรหามาตรการต่างๆ ที่เหมาะสม ในการแก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ของเรา สำหรับ “โครงการประกันรายได้เกษตรกร” นี้ จะเป็นทั้งการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญ อาทิ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน อีกทั้งเป็นการดูแลเกษตรกรให้มีความมั่นคงทางรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยปีการผลิต 2564/65 นี้ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่
1) เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.69 ล้านครัวเรือน
2) เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 452,000 ราย
3) เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง 524,000 ราย
4) เกษตรกรชาวสวนยาง 1.88 ล้านราย

นอกจากนี้ ยังมี “มาตรการคู่ขนาน” อีก 3 โครงการ ได้แก่
1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี
2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก

นับจากวันนี้ จะมีการส่งมอบเงินโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตรงไปยังบัญชีของพี่น้องเกษตรกรโดยตรงและเร็วที่สุด เพราะผมเข้าใจดีว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนั้น แม้แต่ 1 วันก็มีความหมาย โดยตราบใดที่ผมทำหน้าที่เป็นผู้นำรัฐบาล จะพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อดูแลทุกข์สุขของคนไทย ทั้ง 70 ล้านคน ให้อยู่ดีกินดี มีความสุข โดยถ้วนหน้ากันครับ