xs
xsm
sm
md
lg

สลด! ทหารหึงโหดชักปืนรัว 8 นัดใส่เมียดับต่อหน้าแม่ยายหน้าที่ว่าการอำเภอ แล้วหนีไปยิงตัวตายในศาลหลักเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - สลด! ทหารหึงโหดเมียขอหย่าแต่ตนเองไม่ยอม ชักปืนรัวยิง 8 นัดเมียดับคารถต่อหน้าแม่ยายหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ แล้วหนีไปยิงตัวตายในศาลหลักเมือง พ่อตาเผยทหารหึงเมียมาก ช่วงไปทำงานจะขังเมียไว้ในห้องพักไม่ให้ออกไปไหน พูดกับใครไม่ได้ ไม่ให้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่

วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.45 น. พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ภาคิน ขันติวงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ และชุดสืบสวนออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.เชาวนี อารีย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 298 ม.4 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณเบาะที่นั่งด้านคนขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค 4269 อุบลราชธานี โดยถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะ ตามลำตัว รวม 8 นัด ปลอกกระสุนปืนเกลื่อนบริเวณ และสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุซึ่งแต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศไม่ทราบสังกัด ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงผู้ตาย จากนั้นได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด สีแดง หมายเลขทะเบียน ฏฮ 4446 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป

พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ภทรธร ชญาธนานันท์ สว.สส.สภ.กันทรลักษ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามคนร้าย และได้วิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสกัดจับ จนพบเห็นรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่มาจอดอยู่ที่หน้าศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ฝั่งตะวันออก พ.ต.ท.ภทรธรจึงได้สั่งเจ้าหน้าที่ล้อมรถยนต์คันดังกล่าวแต่ไม่พบบุคคลใดภายในรถยนต์ แต่มีประชาชนเห็นชายแต่งเครื่องแบบทหารถือปืนวิ่งลงจากรถยนต์ขึ้นไปภายในบริเวณศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 1 นัด


พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปิดล้อมบริเวณศาลหลักเมือง และได้เรียกให้บุคคลที่อยู่ด้านในออกมาแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปิดล้อมได้สังเกตเห็นมีชายแต่งกายเครื่องแบบทหารนอนนิ่ง จึงเข้าไปตรวจสอบปรากฏว่ามีรอยถูกกระสุนยิงที่บริเวณศีรษะนอนเสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือ นายประยงค์ สมพงษ์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 91 ม.7 ตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด มีรอยถูกยิงที่บริเวณศีรษะพร้อมกำปืนนอนจมกองเลือด

จากการตรวจสอบเบื้องต้น นางถวิล อารีย์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/4 หมู่ 4 บ้านเขวา ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แม่ผู้เสียชีวิต เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วย น.ส.เชาวนี อารีย์ อายุ 34 ปี ผู้ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกสาวของตน ได้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้มาบอกกับตนว่าไม่สามารถที่จะอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายประยงค์ สมพงษ์ ซึ่งเป็นอาสาสมัครทหาร อยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ หลังจากที่ได้จดทะเบียนสมรสกันนาน 8 เดือนที่สำนักทะเบียนดอนเมืองกรุงเทพฯ จึงได้นัดหมายกันมาจดทะเบียนหย่ากันที่ที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์


แต่เมื่อมาถึงที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ฝ่ายชายไม่ยอมหย่า อีกทั้งอยู่ในระหว่างการรอคิวในการดำเนินการ จึงได้เกิดมีปากเสียงกัน ตนพร้อมด้วย น.ส.เชาวนี จึงได้เดินลงจากที่ว่าการอำเภอมาที่รถยนต์ที่จอดอยู่เพื่อขับขี่ออกจากอำเภอ และปรากฏว่านายประยงค์ได้เดินไปเอาอาวุธปืนที่อยู่ในรถยนต์ฟอร์ดออกมายิง น.ส.เชาวนี จำนวน 8 นัดต่อหน้าตน จากนั้นนายประยงค์ขับขี่รถยนต์หลบหนีไป

ทางด้าน นายสันติชัย อารีย์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/4 หมู่ 4 บ้านเขวา พ่อของ น.ส.เชาวนี เล่าว่า ลูกสาวได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่านายประยงค์จะเป็นคนหึงมาก ช่วงที่อยู่กินด้วยกัน ขณะไปทำงานนายประยงค์จะขังลูกสาวของตนไว้ในห้องไม่ยอมให้ออกไปไหน พูดกับใครก็ไม่ได้ ทำให้ลูกสาวของตนมีความคับแค้นใจกับพฤติกรรมหึงหวงของนายประยงค์เป็นอย่างมาก จะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ก็ไม่ได้ หากกลับมาบ้านเยี่ยมพ่อแม่นายประยงค์จะรีบมาตามกลับไป ลูกสาวของตนบอกว่าคงจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ จึงได้หนีกลับมาบ้านและขอหย่าขาดจากนายประยงค์ ซึ่งในวันนี้นายประยงค์ได้แต่งเครื่องแบบทหารมาด้วย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุยิงลูกสาวของตนแบบนี้ ซึ่งตนและครอบครัวเสียใจมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผกก.สภ.กันทรลักษ์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมแพทย์ฝ่ายปกครอง อัยการร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุและเก็บพยานหลักฐานเพื่อประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป














กำลังโหลดความคิดเห็น