กาญจนบุรี - คนร้ายสุดโหด ขับจักรยานยนต์ขวางหน้ากระบะกลาง 4 แยกไฟแดงวังสารภี กาญขนบบุรี แล้วทะเลาะหญิงคนขับ ก่อนชายวัย 27 ปีชาวเพชรบูรณ์ที่นั่งมาด้วย เปิดประตูวิ่งหนี สุดท้ายโดนไล่ยิงกระหน่ำร่างพรุนดับสยอง ส่วนปมอยู่ระหว่างสอบสวน
วันนี้ (29 พ.ย.) พ.ต.ท.สุคนธ์ รัสเอี่ยม สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ภายในวังสารภี พลาซ่า หมู่ 9 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกรียติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.งภาคิน แสนพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เสนีย์ เวชพัฒ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ศุภกิจ มหาโชคธรณี สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.มารุต ฉัตรทัณฑ์ สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
ในที่เกิดเหตุพบศพร่างผู้เสียชีวิตเป็นสภาพนอนหงาย ใส่เสื้อยืดสีดำแขนสั้น นุ่งกางเกงขายาว โดยมีรองเท้าแตกตกอยู่ 1 คู่ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าบริเวณศีรษะและตามร่างกายร่วม 10 นัด จากการตรวจสอบโดยรอบพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.ตกอยู่กับพื้น จำนวน 11 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบประตูเหล็กของอาคารพาณิชย์ถูกลูกหลงยิงประตูเสียหายอีก 2 คูหาทราบชื่อผู้เสียชีวิตในภายหลังคือนายอำพล บุ้งทอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 327 หมู่ 3 ต.โคกสะอาด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
ขณะเดียวกันพบผู้หญิงนอนเป็นลมอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ 1 ราย ตามเสื้อผ้ามีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอาการช็อก ทราบชื่อคือ นางรจนา ชีวี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/2 หมู่ 2 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
โดยนางรจนา พูดว่าตนเองกับนายอำพลผู้ตายเป็นเพื่อนกัน และกำลังเดินทางไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 2 ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ซึ่งนายอำพลมีอาชีพทำนาอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งนางรจนา กำลังเล่าแต่กลับมีอาการคล้ายจะเป็นลมขึ้นมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อให้พักผ่อนและรอให้ตั้งสติได้ก่อนจึงจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง สำหรับร่างของผู้เสียชีวิตหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการพิสูจน์เบื้องต้นแล้วเสร็จ จึงนำไปไว้ที่ รพ.พหลฯก่อนที่จะส่งไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บร 1849 กาญจนบุรี ของนางรจนา ถูกจอดทิ้งเอาไว้ที่บริเวณ 4 แยกไฟแดงวังสารภี ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ลักษณะวิ่งมาจากจากทางด้าน 3 แยกไฟแดงท่าล้อ อ.ท่าม่วง เมื่อมาถึงไฟแดง 4 แยกวังสารภีได้ขับชิดเลนขวาเพื่อเลี้ยวไปทางด้าน ต.หนองขาว อ.พนมทวน โดยเจ้าหน้าที่จราจรได้นำกรวยมากั้นและคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเนื่องจากมีปริมาณรถเป็นจำนวนมาก โดยที่กระบะรถยนต์คันดังกล่าวนั้นมีกระสอบข้าวเหนียวอยู่ 4 กระสอบ
ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เป็นชายอาชีพขายพวงมาลัยอยู่ที่บริเวณ 4 แยกไฟแดงวังสารภี เล่าว่าขณะที่ตนกำลังเดินขายพวงมาลัยอยู่นั้น เห็นผู้ที่ก่อเหตุเป็นชายผิวขาวรูปร่างสูงแต่มองไม่เห็นใบหน้าเนื่องจากสวมหมวกกันน็อก ชายคนดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดขวางด้านหน้าเอาไว้ จากนั้นได้ลงจากรถและพยายามเปิดประตูรถยนต์ฝั่งคนขับ ระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงคนขับที่เป็นผู้หญิงมีปากเสียงกันกับชายผู้ก่อเหตุ
ไม่นานนักก็มองเห็นนายอำพลเปิดประตูซ้ายแล้ววิ่งหลบหนี เมื่อชายผู้ก่อเหตุเห็นจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรไล่ติดตามไปอย่างรวดเร็ว แล้วใช้อาวุธปืนยิงนายอำพลจนเสียชีวิตที่บริเวณจุดเกิดเหตุ หลังจากก่อเหตุตนเห็นคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีโดยมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี
โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสอบปากคำนางรจนา เพื่อหามูลเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ นอกจากนี้จะการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาใกล้กับจุดเกิดเหตุรวมทั้งตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี และเชื่อว่านางรจนา จะรู้จักคนร้ายที่ก่อเหตุ คาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในเร็วๆนี้