xs
xsm
sm
md
lg

สาวเมืองปราจีนฯ เพาะพันธุ์นกพิราบอินเดียส่งขาย สร้างรายได้งาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปราจีนบุรี - สาวเมืองปราจีนฯ พลิกวิกฤตตกงานจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 เพาะพันธุ์นกพิราบอินเดียส่งขายตลาดผู้เลี้ยงนกทั้งไทยและต่างประเทศ เป็นเจ้าแรกในจังหวัด สร้างรายได้งามหลายหมื่นบาทต่อเดือน

จากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จนทำให้หลายคนเกิดอาการท้อแท้หมดหวัง หมดแรงสู้ชีวิตจากพิษโควิด-19 ที่ระบาดอย่างหนัก กินเวลายาวนานเกือบ 3 ปี แต่ที่เมืองปราจีนบุรี ยังมีหญิงแกร่งที่ไม่ยอมแพ้และเลือกที่จะแก้วิกฤตที่ต้องตกงานกลับมาอยู่บ้าน สร้างโอกาสใหม่ในการทำงานสร้างรายได้งามให้ตนเองและครอบครัว

นางกชกร จัตุรัส ชาวบ้านใน จ.ปราจีนบุรี บอกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตนเองได้พยายามมองหาอาชีพใหม่ที่ลงทุนน้อยแต่สามารถสร้างกำไรเลี้ยงตัวเองได้อยู่หลายหนทาง กระทั่งล่าสุด ได้ทดลองเลี้ยงนกพิราบอินเดีย เนื่องจากเชื่อว่าไม่น่าจะมีคู่แข่งและไม่มีใครเลี้ยงแบบจริงจัง

จึงตัดสินใจนำเงินเก็บที่มีซื้อลูกนกพิราบอินเดีย สายเลือดดีในราคาที่ตัวละ 3,500 -6,000 บาทมาเลี้ยง กระทั่งโตจนสามารถผสมพันธุ์ได้และเริ่มออกลูกให้ชื่นชม โดยเป็นลูกนกที่มีสีสันสวยงาม ซึ่งคนไทยจะนิยมนกสีขาวมากเป็นพิเศษ จึงทำให้ลูกนกที่เลี้ยงไว้ได้รับความสนใจจากตลาดคนไทยในพื้นที่เป็นอย่างมาก


โดยตนเองได้ขายลูกนกให้ผู้สนใจในราคาตัวละ 1,000-3,000 บาท ซึ่งนกพิราบอินเดียจะออกไข่ 2 เดือนครั้ง แต่ละครั้งจะได้ไข่ไม่เกิน 2 ฟอง ทั้งนี้ นกพิราบอินเดีย เป็นนกที่เลี้ยงง่ายและโตเร็ว มีนิสัยเชื่องชินกับคน กินอาหารเม็ดผสมข้าวเปลือก จึงถือเป็นนกที่เลี้ยงง่ายและชอบอาบน้ำผึ่งแดด

“สำหรับตลาดคนไทยจะนิยมนกสีขาวมากที่สุด จึงเป็นสีที่ขายดี แต่สำหรับผู้ที่เลี้ยงไว้ทำพันธุ์จะเลือกตัวที่มีสีสันแปลกตา โดยเฉพาะสีขาวปลอดหลังเหมือสวมเสื้อกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลล้วนเป็นที่นิยมมาก”

นางกชกร ยังบอกอีกว่า ผู้ที่สนใจจะเลี้ยงนกพิราบอินเดีย ไม่ต้องกลัวว่านกจะบินหนี เพราะนกพิราบอินเดียบินไม่เก่งและชอบอยู่ใกล้คน

ส่วนลักษณะเด่นของนกพิราบอินเดีย คือตัวผู้และตัวเมียจะมีหงอนที่หัว มีขนเท้าที่ยาวปิดคลุมเท้าทั้งหมด หางจะลำแพนเหมือนหางนกยูง และมักจะลำแพนตลอดเวลาและยังมีสีสันสวยงาม ทำให้นกพิราบอินเดียน่าเลี้ยงกว่านกพิราบทั่วไป ขณะที่ลำตัวยังมีขนาดใหญ่กว่า และน้ำหนักต่อตัวประมาณ 1.5 กิโลกรัม


"ทุกวันนี้เลี้ยงนกพิราบอินเดียเป็นอาชีพหลักและได้ส่งพันธุ์นกขายให้ผู้สนใจทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าในประเทศลาว และกัมพูชาที่เรามีบริการรถจัดส่งให้ ส่วนตลาดใหม่อย่างเวียดนาม ที่ขณะนี้เริ่มมีติดต่อเข้ามาแต่ยังไม่กล้าจัดส่งเพราะระบบขนส่งไปยังเวียดนามยังไม่พร้อม ซึ่งรายได้จากการขายพันธุ์นกพิราบอินเดียขณะนี้มีมากถึงหลายหมื่นบาทต่อเดือน จึงถือเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวได้อย่างสบาย" นางกชกร กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น