xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) Ruamphraphon เลี้ยงปลา 20 ปี หนี้หลักล้าน.. หันมาจับไม้ด่าง “ปลดหนี้หลักล้าน” ระยะเวลาไม่ถึงปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายปรัชญาวัต มะนาวหวาน และ นางเสาวลักษณ์ มะนาวหวาน
ตลาดไม้ด่างราคาแรงไม่ตก ตลาดต่างประเทศทั้งเวียดนามและจีนยังคงมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องประกอบกับ ตลาดยุโรปมีความต้องการต้นไม้จากประเทศไทย เพราะที่ยุโรปอากาศหนาวปลูกเพาะขยายพันธุ์ต้นไม้ไม่ได้ กลับมาซื้อเมืองไทย ตลาดนักสะสมเมืองไทยยังคงต้องการต้นไม้สายพันธุ์ใหม่ๆ วันนี้ พามารู้จัก เจ้าของสวนไม้ด่าง Ruamphraphon สุพรรณบุรี ที่ปลดหนี้หลักล้านได้ด้วยไม้ด่าง

เสาวลักษณ์ มะนาวหวาน
นายปรัชญาวัต มะนาวหวาน และ นางเสาวลักษณ์ มะนาวหวาน เจ้าของบ่อเลี้ยงปลา อำเภอเดินบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เล่าว่า ตนเองทำบ่อเลี้ยงปลามา 20 ปี ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นแม่ แต่พอตกมาถึงรุ่นของตนเอง ปัญหาของการทำบ่อเลี้ยงปลาในปัจจุบัน คือ น้ำเสียบ่อย ทำให้ปลาตายหมดบ่อ เกิดการขาดทุนสะสมมาเรื่อยจนถึงปัจจุบัน  เช่น ครั้งแรกเลี้ยงปลาได้กำไร 300,000 บาท พอครั้งต่อไปปลาตายหมดขาดทุน เงินกำไรที่ได้มาครั้งก่อนหมดไปเลย เป็นแบบนี้มาเรื่อย  ทำให้เกิดการขาดทุนสะสมเป็นเงินหลักล้านบาท ทำให้ทั้งสองคนต้องเริ่มมองหาช่องทางรายได้อื่นๆ เพื่อนำเงินมาส่งดอกและเงินต้นธนาคาร แต่จะทำอะไรละถึงจะมีเงินพอที่จะปลดหนี้ธนาคารหลักล้านบาทของเขาได้ จนมีเพื่อนซึ่งเป็นคริสเตียนด้วยกัน แนะนำให้ลองเลี้ยงไม้ด่าง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ธุรกิจไม้ด่าง 

โดยครั้งแรกที่ผมาลงทุนซื้อไม้ด่าง ตัดสินใจซื้อต้นแม่มาเลย ราคา 400,000 บาท และพอเลี้ยงไปได้สักพักใบเพิ่มขึ้นเราก็ได้ตัดใบขาย มี 10 ใบ ตัดขายไปสัก 6 ใบได้ทุนคืน และเก็บแม่ไว้สัก 3 ใบ พอต่อมาได้ใบเพิ่มตัดขายได้กำไร 100% พอทำกำไรได้ ซื้อต้นไม้มาเพิ่ม ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ จนสามารถ ปลดหนี้ธนาคารได้ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี ที่เราได้เริ่มทำไม้ด่างออกมาขาย จนถึงวันนี้ ครบ 1ปี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนหลักแสนบาท แต่บางเดือนมีรายได้หลักล้านบาท


สำหรับช่องทางการขาย มีทั้งขายหน้าร้าน และการขายผ่านหน้าเพจ และการนำไปประมูลในกลุ่มทางออนไลน์ แต่ถ้าลูกค้ามาเลือกซื้อเองที่หน้าร้าน เราก็มีขายในราคาพิเศษให้กับลูกค้าบ้าง เช่น น้องๆ เด็กรุ่นใหม่ เขารู้จักเราผ่านทางหน้าเพจ ก็ตามมาซื้อต้นไม้ที่บ้าน บางที่เราก็ขายในราคาที่น้องๆ เอาไปทำกำไรต่อได้ หรือ พ่อค้า แม่ค้าซื้อไปขายต่อ เราก็ขายให้ถูกเพื่อให้เขาไปทำกำไรได้ ที่เราสามารถทำราคาพิเศษให้ลูกค้าได้ เพราะเราขายต้นไม้ที่เพาะขยายพันธุ์จากต้นแม่ซึ่งไม่มีต้นทุนแล้ว

ชนิดของไม้ด่าง ของ Ruamphraphon garden  แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มไม้ใบและกลุ่มบอน ซึ่งกลุ่มบอนที่ราคามาแรงและช่วยปลดหนี้ให้กับทั้งสองคน นี้ บอนหูช้างด่าง หน้ากากฟาโรห์ ฯลฯ และเขาก็ยังมีไม้ด่างอื่นๆ อีกมากมาย ที่เป็นต้นแม่ และเพาะขยายต้นลูกทำกำไรให้กับเขาเป็นจำนวนมาก แม้ว่า วันนี้ ราคาต้นไม้จะราคาตก ก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะเชื่อว่า เดียวราคาก็จะวนกลับมาอีกตามระยะเวลาของมัน ช่วงนี้ ถ้ามีต้นไม้ชนิดไหน แรงๆ อย่างบอนสี เราก็มีซื้อมาเก็บไว้บ้างเป็นต้นแม่ พอได้ต้นลูกก็นำออกมาขาย


ปรัชญาวัต เล่าว่า ไม่ได้กังวลเรื่องของตลาด เพราะไม่มีต้นทุนอะไรแล้ว ถ้าต้นไม้ราคาตก หรือ ขายไม่ได้เราก็เลี้ยงต่อๆไปได้เรื่อยๆ เพราะการเลี้ยงต้นไม้ไม่มีต้นทุน เหมือนการเลี้ยงปลา ที่ต้องซื้ออาหารทุกวัน แต่ต้นไม้แค่ใส่ปุ๋ยหรือเสียค่าน้ำไม่กี่บาท แค่ดูแลเอาใจใส่หน่อยนึงก็ได้ต้นไม้สวยออกไปขาย ช่วงนี้ ถ้าตลาดต้นไม้ชนิดไหนที่มาใหม่แรงๆ เราก็ซื้อต้นไม้เหมือนเดิมและค่อยขยายพันธุ์ พอได้ต้นลูกก็นำออกมาขายทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ  ข้อดีของต้นไม้ ลงทุนครั้งเดียวที่เหลือเก็บทำกำไรเอา หรือบางวันไม่มีค่าน้ำค่าไฟ เราก็นำต้นไม้ราคาแรง มาปล่อยถูกๆ แค่ไม่กี่นาทีเราก็ได้เงินค่าน้ำค่าไฟแล้ว เป็นต้น 

ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมา มีพ่อค้าคนเวียดนาม มาซื้อต้นไม้ในประเทศไทยไปขายเช่นกัน เพราะที่เวียดนามราคาแรงกว่าที่ประเทศไทยมาก เช่น ส้มด่างไทย ราคา 10,000 บาท เวียดนามขาย 20,000 บาท หรือ ในยุโรปรู้ว่าคนไทยเล่นต้นไม้กันก็เอาต้นไม้มาขาย แต่ตอนนี้ อากาศหนาวเขาทำต้นไม้ไม่ได้ ก็กลับมาซื้อของเรากลับไป และในยุโรปมีนักผสมพันธุ์เยอะ ประเทศไทยเราก็นักผสมพันธุ์เยอะเช่นกัน ทำให้เรามีไม้พันธุ์ใหม่ๆ ออกมาขายนักสะสม และลูกค้าต่างประเทศ เช่นกัน  


ทั้งนี้ ในสวนของ Ruamphraphon ของเรายังไม่ได้ผสมพันธุ์ไม้ใหม่ๆ  แต่เราจะเลี้ยงแค่แม่พันธุ  โดยเลือกพันธุ์ที่ได้รับความนิยม  แต่ที่สวนอื่น เริ่มมีการผสมข้ามสายพันธุ์ พอได้พันธุ์ใหม่ๆออกมาและไม่มีในท้องตลาด ราคาก็จะสูงถึงหลักหลายหมื่น ไปจนถึงหลักหลายแสน บาท ซึ่งในต่างประเทศมีการผสมไม้สายพันธุ์ใหม่ ต่อเนื่อง บางต้นขายต้นแม่กันราคาสูงถึง 20 ล้านบาท ก็มีคนไทยไปซื้อมาเหมือนกัน เพื่อนำมาผสม และสร้างต้นไม้พันธุ์ใหม่ ลองรับกลุ่มนักสะสมที่ปัจจุบันในเมืองไทย มีนักสะสมต้นไม้อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด ที่หลายคนต้องทำงานที่บ้าน ความต้องการไม้สะสมมีเพิ่มมากขึ้น

สนใจติดต่อ FB: ruamphraphon garden





คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น