xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ไหวแล้ว! เจ้าของบ้านเช่าชาวพิษณุโลกโวย ขโมยขึ้นบ้าน 5 รอบ แจ้ง ตร.-ร้องภาค 6 คดีไม่เคยคืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - เจ้าของบ้านเช่าชาวพิษณุโลกร้องสื่อ..ถูกโจรขึ้นบ้านขโมยทั้งเงินสด-ปืน รวม 5 ครั้ง สูญเป็นแสน แถมเคยถูกเทน้ำมันพืชราดพื้นให้ลื่นล้มด้วย แจ้งความตำรวจทุกครั้ง ร้องเรียนถึงภาค 6 แต่คดีไม่คืบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


วันนี้ (3 ธ.ค. 64) นายสำรวย ภัทรวงศ์วิสุทธิ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/1 ม.3 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าถูกโจรขึ้นบ้านถี่ยิบ เพียงไม่กี่เดือนโดนไปแล้ว 5 ครั้ง แจ้งความทุกครั้ง แต่คดีไม่คืบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นายสำรวยเปิดเผยว่า ตนเคยมีครอบครัวที่มั่นคง ระยะหลังๆ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากเป็นอัมพฤกษ์กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนไม่สามารถทำงานหนักต้องนอนรักษาตัวเองที่บ้าน ทำให้ภรรยาเลิกราไปอยู่ที่อื่น ส่วนลูก 4 คนออกไปมีครอบครัวกันหมด นานๆ ครั้งจะมาหา ตนจึงต้องอยู่คนเดียว ซึ่งช่วงหลังพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่ไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านหรือทำงานหนักได้ อาศัยรายได้จากห้องเช่าที่เคยทำไว้ก่อนเป็นอัมพฤกษ์ จึงมีเงินเก็บแต่ละเดือนจำนวนหลายหมื่นบาท

ต่อมามีชายหนุ่มคนหนึ่งมาอาศัยที่ห้องเช่าของตน มักเข้ามาคลุกคลีพูดคุยอยู่กับตนทุกวันเพราะไม่มีงานทำ ตนไว้วางใจ เคยให้ไปช่วยซื้อยาและหาซื้อของกินของใช้บ้าง ให้ค่าจ้างครั้งละ 300-400 บาท รวมทั้งได้ใช้ให้ไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มให้อยู่เป็นประจำ

“แรกๆ ก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่มาระยะหลังปรากฏว่ามีคนเข้ามาขโมยเงินในห้องนอนไปกว่า 100,000 บาท พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก ราคาเป็นแสนบาท รวมแล้ววันนั้นตนสูญเงินและทรัพย์สินไปกว่า 200,000 บาท จึงได้ไปแจ้งความเอาไว้”


นายสำรวยเปิดเผยอีกว่า หลังจากนั้นก็มีคนร้ายเข้าขโมยเงินในบ้านของตนอีกรวม 5 ครั้ง แต่ละครั้งคนร้ายได้เงินไปไม่ต่ำกว่าครั้งละ 10,000- 20,000 บาท นอกจากนี้คนร้ายยังเทน้ำมันพืชลงกับพื้นห้องครัวเพื่อให้ตนลื่นล้มได้รับบาดเจ็บ หรือต้องการให้ตนเสียชีวิต โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเป็นคนคนเดียวกันที่เข้าออกบ้านตน และรู้รหัสเอทีเอ็มของตน ตำรวจเคยมาตรวจที่เกิดเหตุก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ส่วนภาพวงจรปิดตามที่ต่างๆ และจุดที่คนร้ายไปกดเงินก็ไม่มี อ้างว่าเสีย ทำให้ไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมตำรวจไม่สนใจคดีของตนทั้งที่แจ้งเบาะแสไปแล้ว คนที่สงสัยก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านตนเลย ผิดกับแต่ก่อนมาทุกวัน วันละหลายรอบ

นายสำรวยเผยอีกว่า อยากร้องขอให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้ หากยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ตนต้องถูกขโมยรายนี้ขึ้นบ้านอีกเป็นประจำแน่ และอาจไม่ปลอดภัยในชีวิตด้วย เพราะเป็นช่วงที่ตนต้องกินยารักษาโรคซึ่งทำให้หลับไม่รู้สึกตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น