นครสวรรค์ - ทั้งย่าทั้งอารับไม่ได้..ไรเดอร์หนุ่มนครสวรรค์สุดโหด ถีบหน้าลูกสาวแท้ๆ ล้มคว่ำคาโต๊ะ หลังมีปัญหากับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วพ่อคู่กรณีมาฟ้องให้สั่งสอนลูก แต่กลับลงมือทำร้ายรุนแรง ไม่ยอมฟังคำอธิบาย ขณะที่แม่เตรียมเดินทางจากตราดพรุ่งนี้
วันนี้ (29 พ.ย. 64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้ากรณีน้องบี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กสาวที่ถูกพ่อทำร้าย และปรากฏในโพสต์ของเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 และมีการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ตบตีถีบซะหล่นเก้าอี้ พ่อคนประสาอะไร ใช้อารมณ์ใช้กำลังแบบนี้ถึงเป็นลูกก็ผิด เด็กมีกฎหมายคุ้มครอง คลิปในเมนต์ #นครสวรรค์ มึงนี่ยิ่งกว่าสัตว์...อีก ลูกทั้งคนทำได้ยังไง ความเป็นพ่อของมึงอยู่ตรงไหน ติดแค่เด็กมันทะเลาะกันนิดหน่อย น้องก็พยายามอธิบายให้ฟัง แค่ตักเตือนลูกดีๆ ก็ได้ทำไมต้องลงไม้ลงมือกับลูกตัวเองได้ขนาดนี้ แล้วสภาพจิตใจเด็กจะเป็นยังไง ทำไมน้องสาวเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย รอบแรกก็หนักเกินพอแล้วยังหันกลับมาทำร้ายรอบสองอีก ไม่เอามึงไว้แน่-ใครนะครับ / น้องสาวพี่แท้ๆ-พ่อเดียวกัน..รึเปล่าครับ / คนละพ่อค่ะแม่เดียวกัน-ค่ะพี่ รอตำรวจดำเนินคดีพรุ่งนี้..”
นางทิพย์ภัสสร์ ทองคำ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นอาของน้องบี ได้ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 64 เวลา 18.20 น. กล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพน้องบีถูกพ่อชื่อ นายวัฒนศักดิ์ ภู่ทิพย์ หรือเอก อายุ 41 ปี พ่อแท้ๆ เข้ามาทำร้ายร่างกายในร้านขายของ ตนจึงได้พาน้องไปพบแพทย์และไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ในเวลา 22.00 น. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดให้เข้าไปคุยกันในวันที่ 30 พ.ย. 64 ช่วงบ่ายโมง
ส่วนตัวน้องบีตนรับมาอยู่ได้แค่ 3 เดือนเนื่องจากทางแม่ทำมาหากินลำบาก จึงให้น้องบีมาอยู่กับย่าก่อน และจะเอาเข้าเรียนต่อ เนื่องจากน้องบีได้ทำเรื่องหยุดเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ไว้ จะได้นำมาเข้าเรียนต่อที่จังหวัดนครสวรรค์ เพราะว่ากลัวเด็กจะเรียนไม่ทันคนอื่น
ด้านนางพีรสุพัศ ภู่ทิพย์ อายุ 62 ปี ย่าของน้องบี และเป็นแม่ของนายวัฒนศักดิ์ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น คือน้องไปมีปัญหากับเพื่อนรุ่นเดียวกันในละแวกบ้านใกล้เคียง ซึ่งก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่เป็นเพราะน้องบีเผลอไปโดนตัวทางฝั่งคู่กรณี จนทำให้พ่อแม่ทางฝั่งคู่กรณีไปฟ้องบอกพ่อของน้องบีให้ตักเตือนลูก แต่กลับกลายเป็นว่ามาทำร้ายน้องบีอย่างรุนแรงโดยไม่สอบถามความเป็นมาให้ชัดเจนก่อน
“ไม่ได้บอกว่าน้องบีผิดหรือไม่ผิดนะ แต่ก็ไม่ควรที่จะใช้วิธีการทำโทษรุนแรงกับน้องบีเช่นนี้ มันป่าเถื่อนเกินไป จึงฝากไปถึงลูกชายด้วยว่า ขอให้นึกถึงหัวอกลูก อย่าไปใช้ความรุนแรงกับลูกแบบนี้ คนทำแบบนี้มันใช้ไม่ได้”
เมื่อถามถึงนายวัฒนศักดิ์ พ่อของน้องบี นางพีรสุพัศระบุว่า เขาได้เลิกกับแม่น้องบีไปตั้งแต่น้องบีอายุได้ 5 ขวบ และทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งน้องบีเขาก็อยู่กับแม่ของเขาที่ จ.ตราดมาตลอด จนกระทั่งอาสาวได้รับมาอยู่ด้วย ส่วนนายวัฒนศักดิ์ปัจจุบันทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร และมีบ้านพักอยู่กับครอบครัวใหม่ของเขา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ได้เข้ามาช่วยเหลือและพูดคุยกับทางญาติเพื่อให้ได้รับความสบายใจ โดยเสนอให้น้องเข้าไปอยู่ในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ก่อนเพื่อความปลอดภัย และจะช่วยเหลือทุกเรื่องเท่าที่จะหาทางช่วยได้ แต่น้องบีปฏิเสธการเข้าไปอยู่ที่บ้านพักเด็ก โดยจะขอกลับไปอยู่กับแม่ที่ จ.ตราดตามเดิม
ส่วนทางญาติก็จะขอดูแลน้องบีเอง แต่ก็ต้องรอว่าพรุ่งนี้ (30 พ.ย. ) แม่ของน้องบีที่จะเดินทางมาหา จะดำเนินการอย่างไร จะเอาเรื่องดำเนินคดีพ่อของน้องบีหรือไม่ รวมถึงจะรับน้องบีกลับไปอยู่ตราดหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้จะมีการพูดคุยกับแม่ของน้องบีอีกครั้ง แต่หากน้องบียังอยู่กับอาของเขา อาเขารับปากว่าหลังจากนี้จะดูแลให้ดีขึ้นกว่านี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก