ราชบุรี - เปิดใจน้องกิ๊ฟ นักศึกษาสาวร้องเพลงเปิดหมวกส่งตัวเองเรียน หลังมีคนโทร.แจ้งตำรวจจับฐานเสียงดัง เผยชอบร้องเพลง เคยประกวดหลายเวที เป็นศิษย์ "ครูสลา คุณวุฒิ" พ่อแม่แยกทางต้องอยู่กับปู่-ย่า ร้องเพลงหารายได้เป็นเสาเหลักของครอบครัว ด้านตำรวจยันทำตามหน้าที่ แต่แค่ให้เบาเสียง ไม่ได้ห้ามร้อง
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สภ.เมืองราชบุรี ได้โพสต์เรื่องราวของการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ว่า # เปิดเพลงเสียงดัง วันที่ 11 พ.ย.64 เวลา 07.30 น. จยย.เขต 1 เหตุเปิดเพลงเสียงดัง เบื้องต้น เป็นนักศึกษามาเปิดหมวกโชว์พลังเสียงเพื่อเป็นทุนการศึกษา ได้ว่ากล่าวให้เบาเสียงลงเรียบร้อย เหตุการณ์ทั่วไปปกติ พร้อมกับลงภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปยืนพูดคุยกับน้องผู้หญิงที่สวมชุดนักศึกษาในตลาดราชบุรี ทำให้มีชาวโซเชียลแห่มาคอมเมนต์ถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจกันอย่างมาก
วันนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบในเฟซดังกล่าว และทราบว่าน้องนักศึกษาที่ไปร้องเพลง คือ น.ส.ปวีณา หรือน้องกิ๊ฟ รวมศิลป์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 4 ต.ด่านทับตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นนักศึกษา กศน. มัธยมปลายที่ อ.จอมบึง จึงได้ไปพูดคุยถึงสาเหตุที่ต้องมาร้องเพลงเปิดหมวก ซึ่งน้องกิ๊ฟ เล่าให้ฟังว่า ตนนั้นชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อช่วง ม.1 พ่อแม่แยกทางกัน ตนต้องมาอยู่กับปู่และย่า และไม่มีใครส่งเสียให้เรียนตนจึงออกไปร้องเพลงตามงานต่างๆ และไปเปิดหมวกร้องเพลงตามตลาดนัดเพื่อหาเงินมาเรียนและเลี้ยงดูปู่กับย่าด้วย ทำให้ตนเองเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่ผ่านมา เคยไปประกวดร้องเพลงหลายเวที จนได้เป็นแชมป์หลายสมัย และได้เป็นลูกศิษย์ของครูสลา คุณวุฒิ
ส่วนประเด็นดรามาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ตนไปร้องเพลงในตลาดสดราชบุรี และมีตำรวจมาบอกให้เบาเสียงลงหน่อยเพราะมีคนโทร.ไปร้องเรียน ตนเองเลยตัดสินใจเก็บของกลับ ซึ่งทางพี่ตำรวจใจดีบอกว่าให้ร้องต่อได้ และยังนำเงินหยอดในตู้รับบริจาคให้อีก 50 บาท แต่ตนกลัวว่าทางคนร้องจะไม่สบายใจจึงเก็บของกลับดีกว่า แต่จะมาร้องเพลงใหม่อีก ซึ่งเรื่องนี้ตนเองโดนเป็นประจำทั้งที่ไม่ได้เปิดลำโพงดังอะไรมาก และไม่ทราบว่าจะเป็นข่าวขึ้นมา จนพี่สาวมาบอกเมื่อคืนว่า มีคนนำไปลงในโซเชียลถึงได้ทราบ
ด้าน น.ส.ประไพ พานิชรัตน์ อายุ 49 ปี แม่ค้าขายผักสดที่อยู่ติดกับน้องกิ๊ฟ ร้องเพลง บอกว่า น้องมาร้องเพลงทุกอาทิตย์เพื่อหาทุนการศึกษาให้ตัวเอง ซึ่งเสียงเพลงที่ร้องไม่ดังอะไรมากมาย ร้องเพลงแนวเพราะๆ ยืนร้องเพลงประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะกลับ ซึ่งคนอื่นอาจจะฟังว่าเสียงมันดัง แต่สำหรับตนนั้นคิดว่าสว่างแล้ว ไม่น่าจะเป็นการรบกวนอะไรคนที่นอนอยู่ ไม่ใช่แต่เช้ามืด และไม่น่าจะต้องไปแจ้งตำรวจด้วย เพราะเด็กมาหาทุนการศึกษาไม่น่าจะไปไล่เขา แต่ตำรวจทำหน้าที่ ซึ่งตนสนับสนุนเด็กนะ ชาวบ้านแถวนี้ชอบและสนับสนุน เด็กร้องเพลงเพราะในช่วงโควิด-19 ระบาด มันเครียดมีเสียงเพลงมาช่วยคลายเครียดน่าจะดี
ด้าน ส.ต.อ.ไกรสร สินธุ์ฉ่ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เขต 1 ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปบอกให้น้องกิ๊ฟเบาเสียงลง บอกว่าในวันนั้นตนเข้าเวรอยู่ และได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีการเปิดเพลงเสียงดังบริเวรถนนวรเดช ตู้ท่าเทียบเรือ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จึงได้เข้าไปตรวจสอบพบน้องนักศึกษามาร้องเพลง จึงได้ขอให้น้องช่วยเบาเสียงลงเพราะมีคนร้องเรียน ซึ่งน้องให้ความร่วมมือ และเก็บของ ซึ่งตนให้น้องร้องต่อแต่น้องบอกว่าไม่เป็นไร ตนยังช่วยนำเงินหยอดตู้ให้น้องด้วย ซึ่งตนยืนยันว่าทำตามหน้าที่เพราะได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 จึงต้องมาตรวจสอบ ซึ่งทุกเรื่องที่ได้รับแจ้งจะต้องเข้าไปตรวจสอบเพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจ
